หน่วยงานความมั่นคง เตรียมปรับแผนกระชับพื้นที่เขตเมือง หลังเหตุระเบิด

วันนี้ (17 ส.ค. 65) พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองผู้อำนวยการกองรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า) เปิดเผยถึงเหตุระเบิดและเพลิงไหม้กว่า 10 จุด ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ปาระเบิดเพลิงใส่ร้านสะดวกซื้อและปั๊มน้ำมัน เบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปปัจจัยการก่อเหตุได้ แต่เชื่อว่า เป็นความพยายามก่อเหตุมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงเดือนรอมฎอน
สำหรับกลุ่มผู้ก่อเหตุนั้น สันนิษฐานว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน เพราะลักษณะการก่อเหตุเหมือนกัน คือ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ มีการแต่งกายคล้ายผู้หญิง ใช้ระเบิดเพลิงขว้างเข้าไปในที่พื้นที่เป้าหมาย บางแห่งเป็นการวางระเบิดข้างในและกดระเบิด แต่ที่หนักที่สุดคือ ปั๊มบางจาก เพราะเป็นการใช้ระเบิดแสวงเครื่องจุดระเบิดผ่านถังแก๊สที่วางไว้ตรงรถบรรทุกน้ำมัน ที่จอดตรงหัวจ่ายน้ำมัน จุดนี้จึงได้รับความเสียหายมากที่สุด
พล.ต.ปราโมทย์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่รีบควบคุมสถานการณ์ ซึ่งขณะนี้ ชุดทำลายล้างวัตถุระเบิด หรืออีโอดี และชุดพิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าพื้นที่เพื่อดำเนินการตรวจสอบหลักฐานนำไปสู่การหาตัวผู้กระทำความผิดแล้ว
“เชื่อว่าเป็นความพยายามของกลุ่มขบวนการโดยไม่เน้นเป้าหมาย แต่เน้นกลุ่มเปราะบางและอ่อนแอ เพราะหลังจากการพูดคุยสันติสุขเมื่อวันที่ 2 ส.ค. ที่ผ่านมา วันที่ 3 ส.ค.กลุ่มคนร้ายก็ลอบยิงชาวบ้านที่ไปหาของป่า ที่ จ.นราธิวาส จนเสียชีวิต จากนั้นก็มีเหตุการณ์วางระเบิดแหล่งท่องเที่ยว ยิงชาวบ้าน ยิงรถไฟ วางระเบิดร้านสะดวกซื้อ มีวิธีการทำลายเน้นเป้าหมายอ่อนแอ ซึ่งเป็นเป้าหมายกลุ่มเดิมๆ ของโจร เพราะส่งผลกระทบต่อความรู้สึก และสร้างความเดือดร้อน ทำลายยานพาหนะ และทำลายภาพลักษณ์ทางเศรษฐกิจ อีกทั้งระยะหลังเพื่อต้องการกดดันรัฐบาล และทำลายความน่าเชื่อถือ” พล.ต.ปราโมทย์ กล่าว
พล.ต.ปราโมทย์ ยังระบุว่า จากนี้จะต้องปรับแผนกระชับพื้นที่เข้ามาในเขตเมืองมากขึ้น เนื่องจากสถานที่เกิดเหตุ เป็นพื้นที่สาธารณะ มีประชาชนมาใช้บริการจำนวนมาก ส่วนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังยืนยันว่า การพูดคุยยังคงเดินหน้า หากมีประเด็นที่ต้องหารือ ก็ต้องพูดคุยในวงต่อไป