DEEPSOUTH

กรงนกและอิสรภาพ ความทรงจำของ ‘สีตีรอกายะ สาและ’

‘เราต่างคนต่างไปหากินเถอะ เพราะเจ้าของไม่มีแล้ว เราต่างคนมีอิสรภาพกันเถอะ’ สีตีรอกายะ สาเละ ตัดสินใจปล่อยนกของสามีออกจากกรง หลังสามีเสียชีวิตจากเหตุการณ์ตากใบ

กรงนก ที่เก็บรักษาไว้ 20 ปี จึงเป็นความทรงจำ ที่ลบไม่เลือน ของ สีตีรอกายะ สาและ ภรรยาของ มูหะหมัด เลาะบากอ ซึ่งเสียชีวิตหลังถูกลำเลียงขึ้นรถบรรทุก จากหน้าสภ.ตากใบ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ไปยัง ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2547

ก๊ะยะ บอกว่า สามีชอบเลี้ยงนก หลังจากเขาเสียชีวิตไป ก๊ะก็ปล่อยนกไปทั้ง 4-5 ตัว เพราะไม่สบายใจที่เห็นนกถูกขัง เพราะสามีที่ถูกขังอยู่ในรถบรรทุก ถูกวางทับซ้อนกัน จนขาดอากาศหายใจ แค่นึก ก๊ะยะ บอกว่าเธอก็รู้สึกทรมานจนใจจะขาด

“นกเขาพูดไม่ได้ ก๊ะคิดว่าเขาอยู่ในกรงคงอึดอัด ถ้าเราถูกขังอยู่แป๊ปเดียวก็คงอึดอัด ก๊ะเลยปล่อยไปท้้ง 4-5 ตัว ก๊ะไม่อยากฟังเสียงนกด้วย เพราะตอนอาแบอยู่ เวลาเขากลับบ้านนกจะร้องทุกครั้ง พอได้ยินเสียงนก ก๊ะจะคิดถึงเขาตลอดเวลา”

สีตีรอกายะ ยังจำเหตุการณ์เมื่อ 20 ปีก่อนได้ดี การเสียชีวิตของสามีที่ถูกขังในรถบรรทุกคันนั้น แค่คิดก็ทรมานแล้ว จึงปล่อยให้นกมีอิสรภาพ เช่นเดียวกับเธอ หลังสามีเสียชีวิต ต้องเป็นเสาหลักของครอบครัว จากคนที่ไม่เคยทำงานอะไร ต้องทำทุกอย่างแทนสามี จนบางครั้ง คิดว่าตัวเองอยู่บนโลกนี้คนเดียว

สีตีรอกายะ ตัดสินใจร่วมฟ้องคดีตากใบ เพราะอยากลบความรู้สึกเจ็บปวดนี้ด้วยความยุติธรรม ก่อนฟ้องเธอถามลูกๆว่าเห็นด้วยหรือไม่ เพราะกลัวลูกจะถูกคุกคามเหมือนที่เธอเคยเจอ ซึ่งลูกๆก็ยินยอม เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณืแบบนี้ขึ้นอีก

เช่นเดียวกับ กรงนก และที่ดักนก ของสามีที่เธอเก็บไว้ แล้วนำมาจัดแสดงในนิทรรศการ ลบไม่เลือน 20 ปี ตากใบ ก็หวังให้ผู้คนได้จดจำว่า ‘มูหะหมัด เลาะบากอ’ เสียชีวิตจากเหตุการณ์ตากใบ

“ตอนนี้ยังไม่ได้ข่าวว่า คนทำผิดนี่ได้ขอโทษพวกเราไหม ตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่กี่วัน จะหมดอายุความ เหมือนการที่เราต่อสู้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ถ้ามีความยุติธรรมเราก็ดีใจ เพราะไม่อยากให้ลูกหลานเติบโตมากับความเจ็บแค้น ไม่อยากให้ความรู้สึกนี้ถูกส่งต่อรุ่นต่อรุ่น”

รายงาน : ฐปณีย์ เอียดศรีไชย

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat