‘แม่ทัพภาค4’ เดินขอโทษผู้ปกครองเฝ้าไข้ลูกป่วยจากการฝึกวิชาทหาร
‘แม่ทัพภาค4’ ยืดอก เดินขอโทษผู้ปกครองเฝ้าไข้ลูกป่วยจากการฝึกวิชาทหาร เผยการตรวจสอบเอาผิดครูฝึกจะถึงมือภายใน 2 วันนี้ ด้านผู้ปกครอง ขอความเป็นธรรมเยียวยาดูแลลูกที่เจ็บปวด
เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (6 ธ.ค. 65) พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เดินทางมายังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อติดตามดูอาการและเยี่ยมปลอบขวัญให้กำลังใจผู้ปกครองและนักศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 1 จำนวน 17 คน ซึ่งล้มป่วยจากการฝึกจนมีอาการกล้ามเนื้อสลายและไตวายเฉียบพลัน หลังได้เข้ารับการฝึกวิชาทหารเป็นวันที่ 3 ซึ่งมีกำหนด 8 วัน ณ ศูนย์ฝึกย่อยวิชาทหารโรงเรียนนราธิวาส โดยมี นพ.อโณชา สนธิกนก รอง ผอ.ฝ่ายการแพทย์ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ พ.อ.ก่อเกียรติ เข็มแดง รอง ผบ.ฉก.นราธิวาส และ น.ท.อำนาจ ภู่ทอง ผบ.ฉก.นย.ทร.33 นำเข้าเยี่ยมอาการ นศท.ทั้ง 17 คน ที่นอนรักษาตัวอยู่ที่ห้องต่างๆ
ในระหว่างการเยี่ยมอาการ นศท.แต่ละคน พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กล่าวขอโทษผู้ปกครองและนักศึกษา กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งได้สอบถามอาการของเด็ก ทุกคนมีขวัญกำลังใจดีและเมื่อหายจากอาการป่วย จะเข้ารับการฝึกวิชาทหารต่อ พร้อมรับปากจะรื้อแผนการฝึกทั้งหมด เพื่อวางมาตรการความปลอดภัย จะมีการตรวจเช็คระบบสุขภาพร่างกายของ นศท.โดยเฉพาะการตรวจปัสสาวะซึ่งตั้งไว้ 4 ระดับ หากพบมีสีเข้มมากกว่าปกติ จะมีการอนุญาตให้พักและดื่มน้ำ เมื่อร่างกายพร้อมจะทำการฝึกต่อ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย ทุกอย่างที่เกิดขึ้นแม่ทัพขอรับผิดเอง ทำให้ผู้ปกครองที่เฝ้าไข้ รวมทั้งเด็กที่ป่วยต่างมีสีหน้าที่สดใส มั่นใจในคำพูดที่แม่ทัพภาค4 กล่าวทิ้งท้ายไว้ หลังจากแม่ทัพภาค 4 เยี่ยมอาการ นศท.ที่ป่วยทั้ง 17 คน ได้มีการมอบกระเช้าเพื่อปลอบขวัญและเป็นกำลังใจ
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับ นศท.ชั้นปีที่ 1 ที่ล้มป่วยจากการฝึก ณ ศูนย์ฝึกย่อยวิชาทหารที่โรงเรียนนราธิวาส จำนวนทั้งสิ้น 23 คน ซึ่งมีทั้งอาการเนื้อลายสลายและไตวายเฉียบพลัน เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลรือเสาะ 5 คน โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ 18 คน นั้น ล่าสุด มีอาการดีขึ้นจนแพทย์ได้อนุญาตให้กลับบ้านพักแล้ว 6 คน แยกเป็นโรงพยาบาลรือเสาะ 5 คน โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ 1 คน เหลือเพียงนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ แห่งเดียวเพียง 17 คนเท่านั้น และในช่วงเย็นของวันนี้แพทย์ได้อนุญาตให้ นศท.ที่ป่วยและเข้ารับการรักษา จนมีอาการปกติได้อนุญาตให้กลับบ้านเพิ่มเติมอีก จำนวน 3 คน เหลือรักษาที่โรงพยาบาลนราธิวาส อีกจำนวน 14 คน เท่านั้น
ในส่วนของ นศท. จำนวน 8 คน จาก 17 คน ยังคงต้องทำการฟอกไต หรือ ล้างไต ที่แพทย์ต้องดูแลอาการอย่างใกล้ชิด ซึ่งใน 2 หรือ 3 วันต่อสัปดาห์ จะต้องทำการฟอกไต หรือ ล้างไต รวมทั้งแต่ละวันจะถูกเจาะเลือดและนำปัสสาวะไปตรวจหรือวินิจฉัย ดูค่าไตเพื่อหาสารปนเปื้อนในกระแสเลือดว่ามีปริมาณมากน้อย ในแต่ละคนมีภาวะค่าไตดีขึ้นตามลำดับหรือไม่อย่างไร
พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า “ดูแววตาเด็กๆ ทุกคนดีขึ้นมาก วันนี้เด็กๆ ได้ออกจากโรงพยาบาลอีกหลายคน และวันสองวันนี้ก็ได้ออกอีกคือทยอยหายป่วย ผมจะรื้อระบบการฝึกนักศึกษาวิชาทหารใหม่ทั้งหมด ต้องมานั่งสัมมนากัน นั่งคุยกัน ว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นซ้ำอีก อันนี้ผมนำเรียนด้วยความจริงว่า การเยียวยาตรงนี้ไม่ตรงกับระเบียบของกองทัพบก เราไม่ได้เรียกว่าเยียวยา แต่เป็นการดูแลในส่วนที่ผู้ปกครองและญาติต้องเดินทางไปเดินทางมา เราจะดูแลให้ตามความจริง เราต้องทำตามระเบียบถ้าดำเนินการไปแล้วจะโดนร้องเรียนในเรื่องนี้ด้วย เราจะดูแลตามน้องๆ ที่เขาป่วยจริง ตรงนี้ผมได้บอก ผบ.ครูฝึกวันแรกที่ผมบอกว่าต้องอยู่ดูแลให้มากที่สุด พ่อแม่ครอบครัวคนใดไม่มีที่พักต้องจัดหาให้ เรื่องรถรับส่งต่างๆนั่นคือในขั้นต้น ส่วนใครจะอยู่นานกี่วันเราก็จะดูแล
ส่วนกรณีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเหตุที่เกิดขึ้นจากครูฝึก จะถึงมือผมในวันพรุ่งนี้หรือวันมะรืนนี้ ตามนโยบายของ ผบ.ทบ.เราก็จะให้ความยุติธรรมทางการสอบสวน ใครที่เกี่ยวพันเกี่ยวข้องเราว่าไปตามระบบ ซึ่งผู้ปกครองพ่อแม่และสื่อมวลชนต่างๆ เราให้ความเป็นธรรมทุกคน”
ด้านผู้ปกครองนักศึกษาวิชาทหารที่เฝ้าบุตรนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ขอความเห็นใจผู้ที่เกี่ยวข้องว่า “ต้องไปยืมเงินจากเครือญาติมาซื้อชุด นศท.ให้ลูก เพราะลูกอยากเรียน ลูกทั้ง 3 คน อยู่ในวัยเรียนยังไม่มีใครทำงาน ส่วนแม่ทำงานโรงเรียนเอกชน พ่อทำงานแบบรายวัน เพราะราคาชุดนึ่งก็หลายพันไหนเสื้อไหนกระเป๋าเป้สารพัด แต่ว่าเราเต็มใจสนับสนุนให้ลูกเรียน ทีแรกไม่อยากให้เรียนไม่ใช่เรื่องค่าใช้จ่ายน่ะ กลัวแกรับไม่ได้กับเรื่องแบบนี้ที่เกิดขึ้น ส่วนพ่อก็ต้องหยุดทำงานมาเฝ้าลูกตั้งแต่วันแรก เมื่อพ่อหยุดทำงานรายได้มันเข้ามามั๊ย น้องลองคิดดูทำงานโรงเรียนเอกชนจะได้กี่บาท ถ้ารับราชการก็ โอเคนั่นแหละปัญหา”