เนื่องจากคาดว่า บริเวณดังกล่าวน่าจะเป็นฐานปฏิบัติการของกลุ่มคนร้าย เพราะลักษณะภูมิประเทศโดยรอบตรงกับหลักนิยม ของผู้ก่อเหตุรุนแรงที่มักใช้เป็นพื้นที่ ตั้งฐานปฏิบัติการเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบตามภูมิประเทศใกล้เคียงที่คาดว่า จะมีการซุกซ่อนอาวุธ หรือสิ่งของที่ใช้ในการก่อเหตุรุนแรงจนสามารถค้นพบและตรวจยึด วัตถุพยาน ได้1,288 รายการ จากจุดที่ฝังและซุกซ่อน จำนวน 42 จุด โดยมีรายละเอียดที่สำคัญ คือ ปืนเล็กยาว M. 16A. 2 จำนวน 1 กระบอก ปืนพกขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก ปืนพก ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก ชิ้นส่วน ปืนเล็กยาวจำนวนหลายรายการ กระสุนปืน ขนาด 5.56 มม.ไม่ต่ำกว่า 50 นัด กระสุนปืน ขนาด .38 Super จำนวน 36นัด ปลอกกระสุนปืน ขนาด 5.56 มม. ไม่ต่ำกว่า 30 นัด ซองกระสุน ปืนเล็กยาว. M. 16 จำนวน 7 ซอง วัตถุระเบิดแรงสูง (PETN) จำนวน 4 ถุงน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 4 กิโลกรัมปุ๋ยแอมโมเนียไนเตรท สำหรับใช้ทำดินระเบิด น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 6กิโลกรัม เหล็กเส้นตัดสำหรับทำเป็นสะเกิดระเบิด น้ำหนักรวมประมาณ 70 กิโลกรัม ระเบิดแสวงเครื่องแบบท่อ (ไปป์บอมบ์) พร้อมใช้งาน จำนวน 9 ลูก ระเบิดแสวงเครื่องแบบขว้าง ประกอบพร้อมใช้งาน จำนวนหนึ่ง แผง วงจรอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมประกอบเป็นวัตถุระเบิด จำนวนมาก วิทยุสื่อสารและระบบวงจรทางสาย สำหรับจุดระเบิด หลายรายการ
นอกจากนี้ยังพบ เครื่องแต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่ทหาร ยา รวมทั้งเวชภัณฑ์และอื่นๆ อีกหลายรายการ
“จากหลักฐานที่ตรวจค้นเจอเชื่อได้ว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งพักพิงและแหล่งซุกซ่อนสิ่งของสำหรับส่งกำลังของกลุ่มคนร้าย ที่ใช้เตรียมก่อเหตุในพื้นที่ โดยของกลาง ที่ตรวจยึดได้ทั้งหมดจะเร่งรัดดำเนินการ ตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยมอบหมายให้ กองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นหน่วยรับผิดชอบ เพื่อขยายผลไปยัง กลุ่มกลุ่มคนร้ายที่ยังหลบหนี มาดำเนินคดีทางกฎหมาย โดยเร็วที่สุดต่อไป สำหรับผู้ที่ให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ทั้งการให้ที่พักพิง เป็นฝ่ายโลจิสติกส์และการสนับสนุนการก่อเหตุ ถือว่ามีความผิดในอัตราโทษเช่นเดียวกับ ผู้ก่อเหตุรุนแรงจึงขอฝากย้ำเตือนไปยังผู้ให้การสนับสนุน ยุติพฤติกรรมดังกล่าวเพราะมีความผิดตามกฎหมาย” ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 กล่าว