ปิดตำนาน 129 ปี ‘เอสโซ่’ หลัง ‘บางจาก’ เข้าควบกิจการในไทย
หลังจากดำเนินกิจการสถานีบริการน้ำมันในประเทศไทยมานานกว่า 129 ปี บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO เตรียมยุติให้บริการทั่วประเทศในวันที่ 31 สิงหาคม 2566 นี้ หลังจาก บริษัท บางจาก คอร์ปอร์เรชัน จำกัด (มหาชน) เข้าซื้อกิจการ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO ด้วยวิธีการเข้าซื้อหุ้นโดยตรงจากผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ ExxonMobil Asia Holding Pte. Ltd (เอ็กซอน โมบิล) ในสัดส่วน 65.99% ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด มูลค่า 22,605 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าว The Reporters จึงลงพื้นที่สำรวจสถานีบริการน้ำมันของ ESSO พบว่ามีผู้เข้าใช้บริการอย่างไม่ขาดสาย และได้พูดคุยกับ คุณหนึ่ง (นามสมมุติ) หนึ่งในพนักงานของสถานีบริการน้ำมันแห่งนี้ โดยถามว่าเมื่อถึงวันที่ 31 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเปิดทำการแล้ว พนักงานทั้งหมดยังคงทำงานต่อไปหรือไม่ คุณหนึ่งตอบว่ายังคงเป็นทีมเดิมอยู่ เพียงแค่เปลี่ยนยี่ห้อเฉย ๆ และเมื่อถามถึงร้านสะดวกซื้อ Tiger Mart ซึ่งเป็นร้านของสถานีบริการน้ำมัน ESSO แล้ว คุณหนึ่งกล่าวว่าตนเองก็ยังไม่ทราบเช่นกันว่าจะยังคงเปิดอยู่ไหม แต่คาดว่าอาจจะเปลี่ยนแค่ยี่ห้อเช่นเดียวกัน
จากนั้นผู้ใช้บริการรายหนึ่งได้ให้สัมภาษณ์กับ The Reporters ว่า ตนชื่นชอบสถานีบริการน้ำมันแห่งนี้เนื่องจากมีความคล่องตัวกว่าที่อื่น ๆ เวลามาใช้บริการ แถมยังใช้เวลาไม่นานในการเข้าใช้บริการแต่ละครั้งด้วย และเมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรที่สถานีบริการนี้กำลังจะปิดตัวลงนั้น ผู้ใช้บริการส่ายหัวพร้อมตะโกนส่งท้ายว่า “ปั๊มนี้บริการดี” ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ออกไป
สุดท้าย เมื่อถามคุณหนึ่งถึง ‘น้ำมันซูพรีมพลัส’ ซึ่งเป็นน้ำมันเกรดพรีเมียมของเอสโซ่ที่ผู้ใช้หลายรายชื่นชอบว่ายังคงให้จำหน่ายตามปกติจนกว่าจะถึงวันที่ 31 สิงหาคม หรือไม่ คุณหนึ่งยิ้มเศร้าและตอบเพียงสั้น ๆ ว่า “เขาให้เลิกขายไปแล้วครับ”
ทั้งนี้ บริษัท บางจาก คอร์ปอร์เรชัน จำกัด (มหาชน) เผยว่า เตรียมเปลี่ยนป้ายหน้าสถานีบริการน้ำมัน ESSO กว่า 700 แห่งทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2566 และคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ปีจนกว่าจะแล้วเสร็จ ถือเป็นการปิดตำนาน “เอสโซ่ จับเสือใส่ถังพลังสูง” สถานีบริการน้ำมันขวัญใจชาวไทยมาอย่างยาวนานกว่า 129 ปี อย่างเป็นทางการ