Binance แต่งตั้ง คริสเทน เฮกท์ ขึ้นแท่นผู้บริหารด้านการรายงานการฟอกเงิน
Binance บล็อกเชนอีโคซิสเต็ม และแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ประกาศแต่งตั้ง คริสเทน เฮกท์ (Kristen Hecht) อดีตประธานฝ่ายกำกับดูแลองค์กรระดับโลก ขึ้นดำรงตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่กำกับดูแลการปฏิบัติงาน และประธานเจ้าหน้าที่การรายงานการฟอกเงินระดับโลกของ Binance
คริสเทน มีประสบการณ์การทำงานมานานกว่า 17 ปี จากการเป็นที่ปรึกษาอาวุโสด้านนโยบายให้กับสำนักงานต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการตรวจจับการทุจริตของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กว่าทศวรรษ ตามด้วยการดำรงตำแหน่งประธานฝ่ายกำกับดูแลอาชญากรรมทางการเงินของธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ (HSBC) ประจำประเทศจีน มีส่วนร่วมต่อการเปลี่ยนแปลงการปฏิบัติตามกฎระเบียบช่วงการผัดผ่อนการฟ้องคดีอาญาของบริษัท จากนั้นเข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการสื่อสารของบริษัท Novi Financial
ทั้งนี้ คริสเทนจะทำงานขึ้นตรงกับ โนอาห์ เพิร์ลแมน (Noah Perlman) ประธานเจ้าหน้าที่กำกับดูแลการปฏิบัติงาน สานต่อการใช้เทคโนโลยีพัฒนาการปฏิบัติตามกฎระเบียบในอุตสาหกรรม รวมถึงรักษานโยบายด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย อีกทั้งคริสเทนจะดูแลเจ้าหน้าที่รายงานการฟอกเงินทั้งระดับประเทศและระดับภูมิภาค พร้อมสนับสนุนเครื่องมือที่จำเป็นในการจัดการความเสี่ยง และส่งเสริมการปฏิบัติตามข้อกำหนดของเขตอำนาจศาลและแนวทางปฏิบัติสากล เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดอาชญากรรมทางการเงินต่อไป
คริสเทน กล่าวว่า การปฏิวัติของบล็อกเชนเข้ามาเปลี่ยนวิธีการถ่ายโอนสินทรัพย์ไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งเปิดกว้างและโปร่งใสมากขึ้น ซึ่งเข้าใจดีว่าสินทรัพย์ดิจิทัลต้องเผชิญความเสี่ยงจากการโจรกรรมบ่อยครั้งเช่นเดียวกับอุตสาหกรรมใหม่อื่น ๆ ดังนั้น จึงพร้อมที่จะเข้ามาพัฒนาการกำกับดูแลการปฏิบัติงานตามข้อกำหนด พร้อมปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมาย โดยหวังว่าจะสร้างความตระหนักรู้ด้านกฎระเบียบ เพื่อสร้างความไว้วางใจ และส่งเสริมการทำงานร่วมกันในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วนี้
โนอาห์ กล่าวว่า ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้คริสเทนสู่บทบาทใหม่ เพื่อร่วมส่งเสริมแนวทางการกำกับดูแลการปฏิบัติงานทั่วโลกของ Binance พร้อมพัฒนาแนวทางเพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนากฎระเบียบและความคาดหวังที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง โดยคริสเทนเข้าใจถึงความสำคัญของการทำงานกับรัฐบาลและองค์กรระหว่างประเทศจะทำให้เกิดความก้าวหน้าของอุตสาหกรรม รวมถึงการต่อสู้กับอาชญากรรมทางการเงินในระบบนิเวศอย่างยั่งยืน