สรรพสามิต แจง เก็บภาษีดีเซล 5.99 บาท/ลิตร ไม่เป็นความจริง ด้าน กบน.วางแนวทางราคาดีเซล แบบขั้นบันได
นายณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยกรณีคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 3 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและภาคธุรกิจ ในช่วงที่ระดับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยกรมสรรพสามิตได้ออกกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 19) พ.ศ. 2565 ลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลง 3 บาทต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ – วันที่ 20 พฤษภาคม 2565 ส่งผลให้ปัจจุบันอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลบี 7 ลดลงจาก 5.99 บาทต่อลิตร เหลือ 3.20 บาทต่อลิตร ในส่วนของการขยายเวลาการลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซลหลังจาก วันที่ 20 พฤษภาคม 2565 นั้น จะต้องพิจารณาสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกอีกครั้งหนึ่ง
ดังนั้น ตามที่มีการปรากฏข่าวว่า การลดภาษีน้ำมันดีเซลจะมีผลถึงวันที่ 30 เมษายน 2565 และจะมีการจัดเก็บภาษีน้ำมันดีเซลในอัตรา 5.99 บาท ต่อลิตรนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
ด้านนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติเห็นชอบแนวทางการปรับราคาน้ำมันดีเซลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 32 บาท/ลิตร หลังจากนั้น กบน.จะพิจารณาปรับราคาเป็นขั้นบันได เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชน รวมถึงเพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง มาตรการลดค่าครองชีพประชาชนในส่วนที่เกี่ยวกับการตรึงราคาน้ำมันดีเซล
ปัจจุบัน หากไม่มีการอุดหนุนจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ราคาน้ำมันดีเซลจะอยู่ที่ประมาณ 40 บาท/ลิตร และจากการอุดหนุนเพียงครึ่งเดียวตามมติคณะรัฐมนตรี จะทำให้เพดานการปรับราคาจะอยู่ที่ประมาณ 35 บาท/ลิตร ซึ่งหากในแต่ละรอบสัปดาห์ราคาน้ำมันตลาดโลกมีการปรับลดลง ก็จะมีการปรับเงินอุดหนุนและปรับเพดานราคาลดลงตามความการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันต่อไป
ส่วนของน้ำมันดีเซลเกรดพรีเมียม จะทยอยปรับลดการชดเชยลงเช่นกัน โดยจะปรับลดการชดเชยลงสัปดาห์ละ 2 บาท และมีเป้าหมายจะจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันดีเซลพรีเมียมลิตรละ 1 บาท นอกจากนี้ กบน. ยังได้พิจารณาการปรับลดการชดเชยในกลุ่มน้ำมันเบนซิน E85 โดยจะปรับลดการชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯ ลงสัปดาห์ละ 1 บาท จากในปัจจุบันที่อุดหนุนอยู่ที่ 3.53 บาท/ลิตร โดยมีเป้าหมายให้มีการอุดหนุนที่ 0.53 บาทต่อลิตร
ทั้งนี้ การดำเนินงานของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ผ่านมา ได้เข้าไปมีส่วนช่วยในการแก้ไขวิกฤตผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน และเศรษฐกิจของประเทศ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจึงเป็นกลไกและเครื่องมือที่สำคัญในการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันเชื้อเพลิงของประเทศในช่วงภาวะวิกฤตไม่ให้สูงเกินไปจนเกิดผลกระทบต่อค่าครองชีพประชาชน และการเติบโตด้านเศรษฐกิจของประเทศ โดยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมุ่งเน้นการอุดหนุนและชดเชยในระยะสั้นชั่วคราวเพื่อให้เกิดระเบียบวินัยทางการเงินการคลังเป็นสำคัญ
สำหรับฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 26 เมษายน 2565 ติดลบ 56,278 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 24,302 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 31,976 ล้านบาท