BTL Aesthetics เผย ‘EMFACE’ คลื่นกระตุ้นกล้ามเนื้อ ลดความหย่อนคล้อยโดยไม่ต้องผ่าตัด
BTL Aesthetics (บีทีแอล เอสเธติกส์) ผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์และความงาม พัฒนาวิทยาการ ‘EMFACE’ นวัตกรรมการใช้คลื่นพลังงานกระตุ้นลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อเพื่อผิวยกกระชับ แก้ปัญหาริ้วรอยและผิวหย่อนคล้อยให้เกิดการยกกระชับจากภายในสู่ภายนอก
นางสาวบัณฑิตา อุมัษเฐียร ผู้จัดการประจำประเทศไทย จาก BTL Aesthetics กล่าวว่า “EMFACE ไม่เพียงแค่ให้ความสำคัญกับผิวหนังชั้นบนและชั้น SMAS แต่ให้การดูแลในทุกชั้นผิว รวมถึงส่วนของชั้นกล้ามเนื้อซึ่งเป็นชั้นเนื้อเยื่อที่อยู่ลึกที่สุดและทำหน้าที่พยุงชั้นผิวทั้งหมดไว้ สร้างผิวหน้ายกกระชับได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บหรือทำลายเซลล์ผิว ตอบโจทย์ความงามยุคใหม่ที่ยั่งยืน
การทำงานของ EMFACE ผสานสองคลื่นพลังงานประสิทธิภาพสูงที่ออกแบบมาเพื่อใบหน้าโดยเฉพาะ ได้แก่ High Intensity Facial Electrical Stimulation กระตุ้นการสร้างเส้นใยกล้ามเนื้อเฉพาะมัดที่ทำให้หน้ายกกระชับใต้ผิว ทำให้แต่ละชั้นผิวได้รับการพยุงกันแข็งแรงมากขึ้น ส่งผลให้ผิวที่หย่อนคล้อยยกกระชับ และคลื่นพลังงาน Synchronized RF กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเส้นใยอิลาสติน คืนความยืดหยุ่นให้ผิวดูเรียบเนียน ชะลออายุผิวให้อ่อนกว่าวัย กลไกนี้ยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ยึดโยงผิวในแต่ละชั้นให้มีความแข็งแรง
ศ.นพ.วรพงษ์ มนัสเกียรติ หัวหน้าศูนย์เลเซอร์ผิวหนังศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ศึกษาผลลัพธ์จากกลุ่มตัวอย่างในประเทศไทยจำนวน 15 คน ภายหลัง 1 เดือนที่เข้ารับการรักษาด้วยโปรแกรม EMFACE ครบ 4 ครั้ง โดยกระบวนการวิจัยดังกล่าวนำโซลูชันการวิเคราะห์สภาพผิวโดยการถ่ายภาพแบบสามมิติ ได้แก่ QuantifiCare และเทคโนโลยี Antera 3D มาใช้ในการวิเคราะห์สภาพผิวและประเมินประสิทธิผลทางสถิติ
ศ.นพ.วรพงษ์ กล่าวว่า วิทยาการของ EMFACE ในการกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ น่าจะมีผลช่วยกระตุ้นให้เกิดการเสริมสร้างเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่พยุงชั้นไขมันขึ้นใหม่ ช่วยยกผิวที่หย่อนคล้อยให้กระชับขึ้น โดยจากกลุ่มตัวอย่าง พบการยกตัวของผิวบริเวณหน้าผากและแก้ม ไปจนถึงริ้วรอยบริเวณหางตาที่ตื้นขึ้น นอกจากนี้ ผลการวิเคราะห์ผิวด้วยโซลูชันสามมิติยังพบว่าปริมาตรของผิวบริเวณร่องน้ำตาและแก้มมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ส่งผลให้ร่องตาที่ลึกและปัญหาแก้มตอบดูเต็มอิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน การวิจัยดังกล่าวยังครอบคลุมถึงประสิทธิผลด้านความเรียบของสภาพผิว ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้พบว่าผิวบริเวณหน้าผากมีความเรียบขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญเช่นกัน นับเป็นผลลัพธ์ที่เกินความคาดหมายสำหรับการรักษาที่ไม่พึ่งการศัลยกรรม