เกษตร-พาณิชย์ ส่งออกข้าวไทยล็อตแรก 1,000 ตัน ด้วยรถไฟสายจีน-ลาว
เกษตร-พาณิชย์ หน้าบาน สร้างประวัติศาสตร์ส่งออกข้าวไทยล็อตแรก 1,000 ตัน ด้วยรถไฟสายจีน-ลาว ถึงตะวันตกของจีนสำเร็จเป็นครั้งแรก
วันนี้ (20 ม.ค. 65) นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ประเทศไทยสามารถส่งออกข้าวสาร 20 ตู้ ปริมาณ 1,000 ตันโดยใช้เส้นทางรถไฟสายจีน-ลาว ไปถึงมหานครฉงชิ่ง ในภาคตะวันตกของจีนได้สำเร็จเป็นครั้งแรก ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการขนส่งในระบบรางเพื่อขยายโอกาสทางการค้าและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ผู้ประกอบการ และประเทศ ภายใต้การทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ ภาคเกษตรกร และภาคเอกชน ตามนโยบายพัฒนาโลจิสติกส์เกษตรและยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิตเพื่อการส่งออก
นายอลงกรณ์ ระบุว่า จะประเมินผลการส่งออกข้าวล็อตแรก ระบบการจองขบวนรถขนส่งสินค้า และการจองตู้คอนเทนเนอร์ โดยอยู่ระหว่างประสานงานผู้ให้บริการของทั้งสปป.ลาวและจีน เพื่อเร่งขยายผลไปสู่การส่งออกสินค้าเกษตรชนิดอื่น เพื่อสร้างตลาดใหม่ในมณฑลต่างๆ ของจีน และประเทศอื่นๆ ทั้งตลาดเอเชียกลาง เอเชียตะวันออก ตะวันออกกลาง รัสเซีย และยุโรป โดยจะเพิ่มสินค้าเกษตรที่สามารถขนส่งผ่านเส้นทางรถไฟสายนี้ เช่น ยางพารา ผลไม้ กล้วยไม้ไทย มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน สินค้าประมงปศุสัตว์ และสินค้าเกษตรแปรรูปอื่นๆ
นายอลงกรณ์ เพิ่มเติมว่า มหานครฉงชิ่งเป็นชุมทางรถไฟและการขนส่งหลายรูปแบบ อาศัยข้อได้เปรียบจากการมีที่ตั้งอยู่บนเส้นทางสายไหมใหม่ BRI และแม่น้ำแยงซีเกียงจึงมีความพร้อมด้านโลจิสติกส์ และได้วางนโยบายเชื่อมโยง “ฉงชิ่ง-อาเซียน” เป็นแนวทางที่สอดคล้องกับรัฐบาลไทย โดยมหานครฉงชิ่งมีเขตโลจิสติกส์อาเซียนและนานาชาติในตำบลหนานเผิง เขตปาหนาน ถือเป็นเส้นทางขนส่งและระบบโลจิสติกส์ที่สำคัญ และเป็นประตูเศรษฐกิจของจีนตะวันตก สามารถเป็นจุดกระจายสินค้าไปมณฑลต่างๆในภูมิภาคตะวันตกของจีนและขนส่งผ่านไปยังประเทศต่างๆ ได้
นอกจากนี้ยังมีตลาดค้าส่งสินค้าเกษตรนานาชาติซวงฝู เป็นศูนย์กลางกระจายผักและผลไม้ของจีนตะวันตก อยู่ในทำเลที่มีการคมนาคมขนส่งที่สะดวก เชื่อมโยงกับสถานีรถไฟ ท่าเรือ และท่าอากาศยานของฉงชิ่ง เหมาะต่อการค้าขายและกระจายสินค้าเกษตรของไทยโดยเฉพาะผลไม้ที่จะขนส่งทางรถไฟจากไทยไปฉงชิ่งภายใน 1-2 วัน
