สบน. แจง ระดับหนี้สาธารณะล่าสุด ไม่ทำให้ประเทศไทยเสี่ยงล้มละลาย
นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีมีการเผยแพร่ข้อมูลและความคิดเห็นเกี่ยวกับหนี้สาธารณะ ในประเด็นการกู้เงินของรัฐบาล อัตราดอกเบี้ย การชำระคืนหนี้ การปรับโครงสร้างหนี้ประเทศ ประเทศไทยเสี่ยงล้มละลาย ผ่านสื่อต่างๆ ว่า แต่ละปี สบน. ได้จัดทำแผนฯ ประกอบด้วย การก่อหนี้ใหม่เพื่อการลงทุนและบริหารสภาพคล่อง การบริหารหนี้คงค้างเดิมเพื่อบริหารความเสี่ยง และการชำระหนี้จากงบประมาณและเงินแหล่งอื่น ภายใต้กลยุทธ์การบริหารหนี้สาธารณะระยะปานกลาง โดยพิจารณาความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน และการปรับโครงสร้างหนี้ อีกทั้งยังต้องจัดทำภายใต้กฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลัง และกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะอย่างเคร่งครัด ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปี
ที่ผ่านมา สบน. กู้เงินในประเทศเป็นหลักประมาณร้อยละ 98 จึงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนแต่ละปีต่ำ นอกจากนี้ มากกว่าร้อยละ 83 เป็นหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ จึงทำให้มีความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ยต่ำ อีกทั้งยังมีต้นทุนการกู้เงินเฉลี่ยที่เหมาะสมที่ร้อยละ 2.35 ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางดอกเบี้ยโลก
สบน.ขอชี้แจงว่า ระดับหนี้สาธารณะในปัจจุบันยังไม่ก่อให้เกิดปัญหาการคลังแต่อย่างใด เนื่องจากรัฐบาลยังคงมีความสามารถในการชำระหนี้ โดย สบน. ได้ติดตามสัดส่วนภาระดอกเบี้ยต่อประมาณการรายได้ประจำปีอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ประมาณการสัดส่วนภาระดอกเบี้ยของรัฐบาลต่อรายได้ ณ สิ้นปีงบประมาณ 2565 คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 8 และในอีก 5 ปีข้างหน้ายังคงต่ำกว่าระดับเกณฑ์มาตรฐานสากลที่กำหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 10
การชำระหนี้ในแต่ละปี กระทรวงการคลังและรัฐวิสาหกิจได้รับจัดสรรงบชำระหนี้เพื่อนำไปชำระคืนต้นเงินกู้และดอกเบี้ยที่ครบกำหนดชำระ เป็นไปตาม พ.ร.บ. วินัยฯ และประกาศคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐที่กำหนดให้ตั้งงบประมาณรายจ่ายเพื่อการชำระหนี้อย่างพอเพียง โดยกำหนดให้มีการจัดสรรงบประมาณเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ที่ร้อยละ 2.5-4.0 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี และชำระดอกเบี้ยตามที่เกิดขึ้นจริงอย่างครบถ้วน และ สบน. ไม่ได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณรายจ่ายประจำปีมาชำระหนี้แต่อย่างใด สำหรับหนี้คงค้างที่เหลือ สบน. จะดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้เพื่อกระจายการชำระหนี้และลดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ตามมาตรา 24 แห่ง พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ.2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยพิจารณาต้นทุนและความเสี่ยงเป็นสำคัญ
ดังนั้น ขอให้ทุกท่านมั่นใจได้ว่า สบน. ได้ให้ความสำคัญสูงสุดกับการบริหารจัดการหนี้สาธารณะ เพื่อสนับสนุนการลงทุนและดำเนินมาตรการทางการคลังภายใต้ต้นทุนและความเสี่ยงที่เหมาะสม รวมทั้งชำระหนี้อย่างเคร่งครัดและครบถ้วนตามกรอบวินัยทางการคลัง ซึ่งส่งผลให้ระดับความน่าเชื่อถือของประเทศอยู่ในเกณฑ์ที่ดีและน่าลงทุน (Investment Grade) นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติเชื่อมั่นความสามารถในการชำระหนี้ของรัฐบาล ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงมุมมองด้านความมีเสถียรภาพและความโปร่งใสของฐานะการเงินการคลังของประเทศ และไม่อยู่ในความเสี่ยงที่จะล้มละลายแต่อย่างใด