Lee เปิดตัวคอลเลกชันใหม่ ดึง หมาก-ปริญ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์
เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป (cmg) ผู้นำธุรกิจจัดจำหน่าย และบริหารแบรนด์สินค้าชั้นนำกว่า 40 แบรนด์ในกลุ่มแฟชั่น เปิดแผนครึ่งปีหลัง เพื่อขยายธุรกิจยีนส์ พร้อมชูแบรนด์ Lee โดยเปิดตัวคอลเลกชัน Lee Iconic Logo ซึ่งได้มีการปรับดีไซน์เพิ่มลูกเล่น และเทคนิคพิเศษ พร้อมดึงหมาก-ปริญ สุภารัตน์ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ หวังขยายฐานกลุ่มผู้บริโภคชาวไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่ม คาดสิ้นปียอดพุ่ง
จิตรฤดี พนิตพล รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มสินค้าแฟชั่นและนาฬิกา บริษัท เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป จำกัด (cmg) ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เปิดเผยว่า “ตลาดยีนส์มีความโดดเด่นกว่าตลาดแฟชั่นอื่น ในประเทศไทยตลาดยีนส์ มีมูลค่าประมาณ 15,000-20,000 ล้านบาท จากการสำรวจข้อมูลพบว่า คนไทยซื้อผลิตภัณฑ์ยีนส์ เฉลี่ย 2 ครั้งต่อปี และมีผลิตภัณฑ์ยีนส์ทั้งที่เป็นเสื้อ กางเกง กระโปรง หมวก รองเท้า หรือ แอคเซสซอรี (Accessory) ไม่ต่ำกว่า 15 ชิ้นต่อคน ตอกย้ำว่ายีนส์เป็น Everyday look ที่สามารถสวมใส่หรือใช้ได้บ่อย และเป็นที่นิยมในทุกยุคทุกสมัย”
“ซึ่งในปีนี้การแต่งกายด้วยแฟชั่นยีนส์ มีความตื่นตัวมากขึ้น คาดการณ์ว่าตลาดยีนส์ ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 8-10% ขณะที่แบรนด์ตอบรับความต้องการของผู้บริโภค ด้วยการรุกตลาดยีนส์เต็มสูบ ในทุกช่องทางขาย ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ รวมถึงการออกคอลเลกชันใหม่ ที่เน้นในเรื่องการดีไซน์และเทคโนโลยี ที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่การสวมใส่ และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดย Lee หวังขยายพอร์ตกลุ่มธุรกิจยีนส์ของ cmg เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้แบบก้าวกระโดด”
ด้าน นายอำนาจ สุเมธาศร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มสินค้าเดนิม และ Owned brands กล่าวว่า “Lee เป็นแบรนด์ยีนส์ระดับตำนาน ที่เชี่ยวชาญเรื่องยีนส์ตั้งแต่ปี 1889 ความโดดเด่น และแตกต่างของแบรนด์คือ การใส่ใจการพัฒนาเทคโนโลยี การผลิตอย่างสม่ำเสมอ เช่น Jade Fusion กางเกงยีนส์ผสมหยก ที่มีการใช้ผงหยกผสมลงไปในเส้นด้าย ช่วยทำให้รู้สึกเย็นสบายผิว หรือ Nitro Cool เทคโนโลยีผ้าคอตตอนผสมเส้นใย White Graphene ซึ่งเป็นวัสดุที่ไม่เป็นพิษกับร่างกายมนุษย์ และมีฤทธิ์ป้องกันการก่อตัวของแบคทีเรีย เป็นต้น นอกจากนี้แบรนด์ยังคำนึงถึง ดีไซน์การออกแบบให้เข้ากับยุคสมัย ตามคอนเซ็ปต์ Young & Trendy ซึ่งในทุกๆปี แบรนด์ได้ออกคอลเลกชันพิเศษต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Global Capsule Collection และ Exclusive Collection ที่วางจำหน่ายเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น เช่น Lee Thai Collection และ Lee Bear Collection เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆในประเทศ”
“เพื่อสร้างกระแสและการเชื่อมต่อ กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ได้มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ ของสินค้าให้ตามเทรนด์ เพิ่มลูกเล่นต่างๆบนสินค้าให้ดูน่าสนใจ อย่างคอลเลกชัน Lee Iconic Logo ที่มีการใช้เทคนิคพิเศษ ที่หลากหลายบนโลโก้ อาทิ Die Cut การทำเท็กซ์เจอร์พิเศษ รวมถึงการนำเทคนิค Monogram ผสมในงาน Patchwork บนโลโก้หลากหลายสี แสดงออกถึงความสนุกสนาน โดยยังคงความเท่และมีสไตล์ในแบบของ Lee”
ทั้งนี้การใช้ Brand Ambassador หรือพรีเซ็นเตอร์กลับมานิยมอีกครั้ง ในยุคดิจิทัลดิสรัปชั่น ทางแบรนด์มองว่ากลยุทธ์พรีเซ็นเตอร์ เป็นเครื่องมือทางการตลาด และการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เมื่อพรีเซ็นเตอร์มีคาแรคเตอร์ ที่เข้ากับแบรนด์ได้อย่างชัดเจน โดยพรีเซ็นเตอร์คนล่าสุด คือ หมาก-ปริญ สุภารัตน์ ภาพลักษณ์ความเป็นพระเอกที่จับต้องได้ และมีไลฟ์สไตล์ที่สอดคล้องกับบุคลิกภาพของแบรนด์ Lee ที่เข้าถึงง่ายและสวมใส่ยีนส์ได้ในทุกๆวัน
นอกจากนี้ได้อัพเกรด Flagship store ปรับปรุงภาพลักษณ์จุดขาย (point of sales) ของ Lee กว่า 190 จุดทั่วประเทศ