ASEAN

หลายฝ่ายใน ‘อาเซียน’ หนุน RCEP มีผลบังคับใช้โดยเร็ว

หนานหนิง – พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย กล่าวในคลิปวิดีโอของพิธีเปิดงานมหกรรมจัดแสดงสินค้าจีน-อาเซียน ครั้งที่ 18 ว่าไทยสนับสนุนการยกระดับเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน และส่งเสริมความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) มีผลบังคับใช้โดยเร็ว

ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคหรืออาร์เซ็ปกลายเป็นประเด็นหารือสำคัญของเหล่าผู้เข้าร่วมพิธีเปิดงานมหกรรมฯ ในนครหนานหนิง เมืองเอกของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน เมื่อวันศุกร์ (10 ก.ย.) ที่ผ่านมา

จำนวนประชากร มูลค่าทางเศรษฐกิจ และปริมาณการค้าของประเทศสมาชิกความตกลงฯ นั้นครองสัดส่วนร้อยละ 30 ของทั้งโลก โดยความตกลงฯ กลายเป็นเขตการค้าเสรีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก หลังจากมีการลงนามเอกสารอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน

หลายฝ่ายในอาเซียนมองว่าการบังคับใช้ความตกลงฯ ในอนาคตจะช่วยอัดฉีดแรงกระตุ้นในการต่อสู้กับการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) และการฟื้นฟูการเติบโตทางเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกและทั่วโลก

ลิม จ๊อก ฮอย เลขาธิการอาเซียน กล่าวกับที่ประชุมสุดยอดด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าตามความตกลงฯ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานมหกรรมฯ ว่าโรคระบาดได้สะท้อนความสำคัญของการค้าระหว่างประเทศที่มีต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค

เลขาธิการอาเซียนชี้ว่าความตกลงฯ สามารถเชื่อมโยงห่วงโซ่คุณค่าระดับภูมิภาคให้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น ยกระดับความโปร่งใสของการตรวจสอบการค้าและการลงทุน ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกความตกลงฯ และมีบทบาทต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจในยุคหลังโรคระบาด

ทะนงสิง กันละยา รองประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติลาว (LNCCI) กล่าวว่าความตกลงฯ มิเพียงขับเคลื่อนการลงทุนด้านการผลิตในประเทศสมาชิก แต่ยังขยายการนำเข้า-ส่งออกสินค้าอย่างผักผลไม้และชิ้นส่วนอะไหล่ รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานและการค้าข้ามพรมแดน

นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานหอการค้าไทย-จีน กล่าวว่าการเปิดตลาดระดับภูมิภาคตามความตกลงฯ จะสร้างตลาดขนาดใหญ่ที่เปิดกว้างยิ่งขึ้น สร้างเงื่อนไขที่ดีแก่ความร่วมมือทางอุตสาหกรรม การเชื่อมโยงเครือข่าย การเงิน ตลอดจนเกื้อหนุนการส่งออกและการลงทุนระหว่างประเทศสมาชิก

ทั้งนี้ หอการค้าของหลายประเทศมากกว่า 30 แห่ง รวมถึงลาวและไทย ซึ่งเป็นสมาชิกความตกลงฯ ได้ร่วมออกข้อริเริ่มเพื่อส่งเสริมการบังคับใช้ความตกลงฯ โดยเร็ว ซึ่งกระตุ้นประเทศสมาชิกความตกลงฯ ทำการอนุมัติภายในประเทศ เพื่อเดินหน้ากระบวนการทำงานระหว่างประเทศ

ด้าน เกเบรียล ลิม ปลัดกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์ กล่าวว่าความตกลงฯ เป็นหมุดหมายสำคัญของการบูรณาการเศรษฐกิจระดับภูมิภาคและการฟื้นฟูเศรษฐกิจโลกในยุคหลังโรคระบาด โดยสิงคโปร์พร้อมทำงานร่วมกับจีนและประเทศสมาชิกอื่นๆ

ลิม จ๊อก ฮอย ยังกล่าวสำทับว่าการบังคับใช้ความตกลงฯ โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อรับรองว่าเหล่าผู้ประกอบการขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดย่อม จะได้รับประโยชน์จากบริการต่างๆ รวมถึงรับรองการบังคับใช้ความตกลงฯ อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ

ที่มา: สำนักข่าวซินหัว

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat