‘ชัชชาติ’ คาด กทม.อาจโดนหาง ‘พายุโนรู’ ห่วง น้ำเหนือ-น้ำหนุน
‘ชัชชาติ’ คาด กทม.อาจโดนหาง ‘พายุโนรู’ ห่วง น้ำเหนือ-น้ำหนุน เร่งกรอกทราย 2.5 ล้านใบ วางเสริมริมแม่น้ำเจ้าพระยา-ลาดกระบัง
วันนี้ (28 ก.ย. 65) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงแผนรับมือพายุโนรูของ กทม.ว่า พื้นที่ภาคอีสาน ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน น่าจะวิกฤตเพราะอยู่ในเส้นทางโดยตรง กทม.คงโดนหางพายุ ที่ผ่านมาร่องความกดอากาศต่ำทำให้ กทม.ฝนตกเยอะ ปริมาณฝนอาจจะเยอะกว่าพายุโนรู ข้อดีคือทำให้เราเห็นจุดอ่อนของพื้นที่ ปรับปรุงและเตรียมรอรับพายุโนรูไว้แล้ว สิ่งที่ต้องระวังคือ น้ำที่ไหลจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ที่อาจจะรับน้ำจากพายุปล่อยน้ำมาทางคลองด้านใต้ไหลมาถึงฝั่งตะวันออกของ กทม. เขื่อนเจ้าพระยาอาจปล่อยน้ำเข้าทุ่งมากขึ้น หากปล่อยมาในช่วงน้ำหนุนคงต้องระวังเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องวิเคราะห์สถานการณ์เพื่อเสริมกระสอบทรายในจุดอ่อนแอ
พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง คือ โซนตะวันออกของ กทม. ตั้งแต่เขตมีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง สะพานสูง และสวนหลวง โซนเหนือในเขตดอนเมือง และบางเขน โซนริมแม่น้ำเจ้าพระยา เขตสัมพันธวงศ์ และป้อมปราบศัตรูพ่าย สำหรับกระสอบทราย 2,500,000 ใบที่กทม.สั่งมาจะกระจายไปในจุดเสี่ยง โดยเฉพาะโซนตะวันออกของ กทม.และริมแม่น้ำเจ้าพระยา คงต้องให้กรอกทรายเข้ากระสอบใกล้กับจุดเสี่ยง จะได้ไม่ต้องขนย้ายมาก
ส่วนเกณฑ์การเยียวยาผู้ประสบภัยในเขตลาดกระบังที่ประชาชนสะท้อนว่า เกณฑ์อาจจะเยอะเกินไป นายชัชชาติ ระบุว่า เป็นไปตามกฎหมายที่บังคับใช้กันทั่วประเทศ ให้ตามอำเภอใจไม่ได้ ซึ่งผู้อำนวยการเขตต้องสำรวจผู้ประสบภัย ก่อนส่งรายละเอียดให้กรมป้องกันบรรเทาและสาธารณภัย คงต้องสอบถามว่าติดปัญหาอะไรหรือไม่ การปรับเกณฑ์คงไม่ง่าย ส่วนหลักเกณฑ์การเยียวยาของ กทม. ได้มอบหมายให้ ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ดูแลเรื่องนี้ ต้องทำให้ละเอียด เพราะมีความเสียหาย และเงินช่วยเหลือก็เป็นภาษีประชาชน
นายชัชชาติ กล่าวว่า เมื่อวานในตกมาที่เขตลาดกระบังประมาณ 80 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ทำให้น้ำท่วมแถวถนนหลวงแพร่ง และทุ่งนา ถนนหลักไม่มีปัญหาแห้งหมดแล้ว แต่เป็นห่วงนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังที่มีคนงานมากกว่า 40,000 คน เพราะเขตลาดกระบังเป็นจุดเปราะบาง ระบายน้ำออกยาก ฝั่งตะวันออกติดทางแม่น้ำบางปะกง ฝั่งตะวันตกติดกับ กทม.