ศาลสั่งจำคุกกะเหรี่ยงแก่งกระจาน 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา ตามนโยบายทวงคืนผืนป่า
ศาลสั่งจำคุกกะเหรี่ยงแก่งกระจาน 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา ชดใช้ค่าเสียหายอีกกว่า 3 แสน หลัง คสช.กำหนดแนวเขตใหม่ ตามนโยบายทวงคืนผืนป่า
ศาลจังหวัดเพชรบุรี อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่พนักงานอัยการยื่นฟ้องนางวันเสาร์ ภุงาม อายุ 50 ปี กลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง บ้านท่าเสลา อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี เป็นจำเลยฐานบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา พร้อมให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่รัฐเป็นเงิน 310,000 บาท ให้รื้อถอนบ้านและสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ และให้ออกจากอุทยานแห่งชาติและป่าสงวนแห่งชาติ
สำหรับคดีดังนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2561 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จับกุมนางวันเสาร์ ในข้อกล่าวหา “กระทำความผิด พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507” ฐานยึดถือ ครอบครอง ทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในที่ดิน เข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น ก่อนสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าและเสื่อมเสียแก่สภาพป่าในเขตอุทยานแห่งชาติ และป่าสงวนแห่งชาติ เนื้อที่ 31 ไร่ โดยนางวันเสาร์ต่อสู้คดีว่า ผืนดินที่ครอบครอง เป็นมรดกตกทอดจากมารดา
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 3 ปี 8 เดือน พร้อมให้ออกจากที่ดิน รื้อถอนบ้านและสิ่งปลูกสร้าง และจ่ายค่าเสียหายให้รัฐ 2,124,060 บาท ต่อมา ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำตัดสินพิพากษาของศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้อง จากนั้น พนักงานอัยการได้ยื่นฎีกาและ ศาลฎีกาพิพากษาจำคุกในที่สุด
สำหรับผืนป่าแก่งกระจาน ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อปี 2524 โดยแนวเขตระบุในพระราชกฤษฎีกาที่ประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 12 มิถุนายน 2524 ต่อมา กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ลากเส้นแนวเขตใหม่ โดยอ้างว่า ในปี 2558 รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีมติเห็นชอบให้ปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ หรือโครงการวันแม็ป เพื่อให้หน่วยงานราชการใช้แผนที่เดียวกันในการทำงาน
เมื่ออุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ยึดเอาเส้นแนวเขตใหม่ ได้รวมเอาพื้นที่ของนางวันเสาร์ ที่ครอบครองอยู่ เข้าไปอยู่ในเขตอุทยานฯ ด้วย นำไปสู่การจับกุมดำเนินคดี โดยเจ้าหน้าที่ได้ถืออำนาจตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 64/2557 เรื่อง การปราบปรามและหยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ หรือนโยบายทวงคืนผืนป่า