AROUND THAILAND

นิพนธ์ มอบสมุดประจำตัว คทช. พร้อมตรวจแหล่งน้ำหลัก

นิพนธ์ ลงพื้นที่ราชบุรีมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชน (คทช.) พร้อมตรวจแหล่งน้ำหลักแก้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง และพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว

วันนี้ (23 มี.ค.65) นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีมอบสมุดประจำตัว ผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชน ตามนโยบายรัฐบาลในลักษณะแปลงรวมพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าเขากรวดและป่าเขาพลอง” ตำบลหินกอง อำเภอเมืองราชบุรี และพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าเขาบิน” ตำบลปากช่อง อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี

โครงการจัดที่ดินทำกินภายใต้นโยบายของรัฐบาล (คทช.) เป็นกลไกขับเคลื่อนนโยบายและแผนบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินให้แก่ผู้ยากไร้ที่เกี่ยวข้อง มีการพิจารณาข้อมูลพื้นที่ เพื่อคัดเลือกและกำหนดพื้นที่เป้าหมายและดำเนินการจัดที่ดินให้แก่ราษฎร โดยในวันนี้ มีผู้รับมอบสมุดประจำตัว จำนวน 147 ราย พื้นที่รวมทั้งสิ้น 156 แปลง

นายนิพนธ์ กล่าวว่า รัฐบาลต้องการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกิน หรือมีที่ดินแต่ไม่เพียงพอ ช่วยให้มีที่ดินทำกินอย่างถูกต้อง จัดสรรให้ประชาชนที่ด้อยโอกาสอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม เพื่อเป็นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้ประชาชนมีความมั่นคงในการดำรงชีวิต ซึ่งเมื่อประชาชนได้ที่ดิน ได้สิทธิในที่ดิน ถึงแม้ว่าจะ ไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดิน แต่จะเป็นการสร้างความมั่นใจในการทำกินให้กับชุมชน สามารถทำกินในที่ดินผืนดังกล่าวได้โดยถูกต้องตามระเบียบกฎหมาย

หลังจากนั้น นายนิพนธ์ได้เดินทางไปยังบึงกาจับ และบึงวังมะนาว ตำบลบ้านม่วง อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่

บึงกาจับ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ตำบลบ้านม่วง อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี มีพื้นที่ 650 ไร่ สภาพพื้นที่เป็นพื้นที่รายลุ่มริมน้ำ โดยมีคลองทิ้งน้ำ 3 สาย ไหลลงบึง ซึ่งไหลออกทางเดียวผ่านตำบลชำแระ อำเภอโพธาราม ผ่านตำบลธรรมเสน และผ่านคลองบางสองร้อย ก่อนลงสู่แม่น้ำแม่กลอง และในส่วนของบึงมะนาว มีพื้นที่จำนวน 286 ไร่ 1 งาน 61 ตารางวา

นายนิพนธ์ กล่าวว่า บึงกาจับและบึงมะนาวเป็นบึงที่มีขนาดใหญ่มาก หากจะพัฒนาจำเป็นต้องบูรณาการร่วมกันทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นกรมชลประทาน กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น รวมถึงท้องที่ ต้องแก้ปัญหาในระยะยาว โดยปรับแผนพัฒนาท้องถิ่นของ อบต.บ้านม่วง โดยอาจแบ่งการดำเนินการเป็น 3 ระยะ ซึ่งหากสามารถดำเนินการพัฒนาบึงสองแห่งนี้ได้ก็จะเป็นประโยชน์อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการรองรับน้ำในฤดูน้ำหลาก การชะลอการไหลของน้ำ รวมถึงการเก็บน้ำในยามหน้าแล้ง เพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคและการเกษตร

นอกจากนั้น บริเวณดังกล่าว ด้วยขนาดของพื้นที่และบรรยากาศโดยรวม ที่นี่ยังเหมาะที่จะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว สวนสาธารณะต่างๆ ได้อีกด้วย ซึ่งตนมองว่าหากสามารถพัฒนาบึงดังกล่าวได้ไม่เฉพาะตำบลบ้านม่วงเท่านั้นที่จะได้ประโยชน์ แต่ตำบลใกล้เคียงก็จะใช้ประโยชน์จากพื้นที่ดังกล่าวได้อีกด้วย

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat