กพท. ยืนยัน 5G ในไทยไม่กระทบการบิน
ชี้ ช่วงคลื่นห่างกัน-ยังไม่มีรายงานเกิดการรบกวน
วันนี้ (20 ม.ค. 65) สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) แจ้งถึงกรณีกระแสข่าวสายการบินในสหรัฐอเมริกา ออกประกาศเตือนการเปิดใช้สัญญาณ 5G ในย่านความถี่ C-Band ของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมในสหรัฐอเมริกา อาจกระทบต่อความปลอดภัยของเครื่องบิน โดยเฉพาะขณะที่กำลังลงจอด ว่า กพท. ขอยืนยันว่าสัญญาณ 5G ในประเทศไทย ไม่กระทบการบิน มีความปลอดภัย เพราะใช้ช่วงคลื่นห่างกัน
ทั้งนี้ ประเทศไทยใช้ 5G ในย่านความถี่ 2.6 GHz ซึ่งถือว่ามีช่วงห่างจากย่านความถี่ของ Radio Altimeter (4.2 – 4.4 GHz) ค่อนข้างมาก ในระดับปลอดภัยจากการรบกวน อีกทั้ง กพท. ได้เตรียมพร้อมประเด็นดังกล่าวมาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยได้จัดทำข้อมูลแจ้งเตือนสายการบินเป็นระยะตั้งแต่เดือน มิ.ย.64 เป็นต้นมา หลังจากได้รับทราบข้อมูลและการแจ้งเตือนจากองค์การบริหารการบินแห่งสหรัฐอเมริกา (FAA) และองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ซึ่งจนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีรายงานว่าเกิดการรบกวนของสัญญาณ 5G ที่ใช้งานในประเทศไทย ต่อระบบปฏิบัติการบินแต่อย่างใด ซึ่ง กพท. ได้ติดตามความคืบหน้าเรื่องนี้อย่างใกล้และต่อเนื่อง
กพท. ยังแจ้งว่า ผลกระทบจากสัญญาณ 5G ที่อาจเกิดขึ้นกับระบบปฏิบัติการบินของเครื่องบินในสหรัฐ เกิดจากสัญญาณ 5G อาจไปรบกวนการทำงานของระบบอุปกรณ์ที่สำคัญและมีความอ่อนไหวสูง โดยเฉพาะเครื่องวัดความสูงด้วยคลื่นวิทยุของอากาศยาน (Radio Altimeter) ซึ่งจะแสดงผลในห้องนักบินให้ทราบระดับความสูงเหนือพื้นดินในขณะนั้น ทำให้อาจไม่ได้รับข้อมูลความสูงที่ถูกต้อง และอาจก่อให้เกิดอันตรายระหว่างเตรียมลงจอดสู่สนามบิน ซึ่ง Radio Altimeter นี้เป็นอุปกรณ์ที่มีการใช้งานคลื่นความถี่ในย่าน 4,200 – 4,400 MHz (4.2 – 4.4 GHz)
ประเด็นปัญหาที่เกิดกับสหรัฐ แต่ยังไม่มีรายงานปัญหาในประเทศอื่นๆ เนื่องจากสัญญาณ 5G แบบใหม่ที่ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมในสหรัฐเตรียมเปิดใช้งาน ใกล้เคียงกับย่านความถี่ของอุปกรณ์ Radio Altimeter จนอาจเกิดการรบกวนกัน เพราะ 5G ใช้ย่านความถี่ 3.7 – 3.98 GHz ขณะที่ Radio Altimeter ใช้ย่านความถี่ 4.2 – 4.4 GHz แต่ในหลายประเทศ เช่น ฝรั่งเศส ออสเตรเลียและญี่ปุ่น ที่ยังไม่พบปัญหาในลักษณะนี้ จากมาตรการ เช่น การจัดสรรย่านความถี่เครือข่ายกับความถี่ด้านการบินให้ห่างกัน 100 หรือ 200 MHz นอกจากนี้สถานีฐานของระบบ 5G ต้องลดการแพร่สัญญาณเข้าไปในย่านความถี่ด้านการบิน และต้องตั้งอยู่ห่างจากแนวการขึ้น-ลงของอากาศยานไม่ต่ำกว่า 200 เมตร