ชาวเมียนมา 138 ชีวิต หนีตายข้ามมาฝั่งไทย หลังกะเหรี่ยง KNU โจมตีค่ายทหารเมียนมา
วันนี้ (19พ.ค.65) ศูนย์สั่งการชายแดน ไทย – เมียนมา จ.ตาก แถลงว่า เกิดการปะทะกันระหว่างทหารเมียนมา กับกองกำลังชนกลุ่มน้อยเชื้อสายกะเหรี่ยง/กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา บริเวณบ้านทิบาโบ อ.ชูการี จ.เมียวดี ลึกเข้าไปในฝั่งเมียนมาประมาณ 2 กิโลเมตร ด้านตรงข้ามบ้านหมื่นฤาชัย ต.พบพระ
ทั้งนี้ ไม่ปรากฎการรุกล้ำอธิปไตยเข้ามาในดินแดนไทย แต่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่14 อ.แม่สอด ตรวจพบผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาเดินทางเข้ามายังฝั่งไทย บริเวณบ้านมอเกอไทย ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จำนวน 138 คน
ศูนย์สั่งการชายแดน ไทย – เมียนมา จ.ตาก ยังแจ้งว่า จากสถานการณ์การปะทะระหว่างทหารเมียนมา กับกองกำลังชนกลุ่มน้อยเชื้อสายกะเหรี่ยง/กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ในพื้นที่จังหวัดเมียวดี ไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไทยที่อาศัยอยู่ใกล้บริเวณแนวชายแดน โดยล่าสุด มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา เดินทางเข้ามายังฝั่งไทยเป็นการชั่วคราว รวม 551 คน กระจายตามพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว อ.อุ้มผาง จำนวน 3 แห่ง
การปะทะกันระหว่างทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู) กองพลน้อยที่ 6 ร่วมกับ กะเหรี่ยงเคเอ็นดีโอ และกลุ่มพีดีเอฟเข้าโจมตีค่ายทหารเมียนมา ที่ค่ายทีบาโบ ตรงข้ามบ้านหมื่นฤาชัย ต.พบพระ มีการใช้อาวุธปืนและอาวุธหนักยิงใส่ค่ายทหารเมียนมา สามารถยึดค่ายทีบาโบได้ เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 65 ต่อมา ทหารเมียนมาได้ใช้กำลังสนับสนุนทางอากาศ ส่งเครื่องบินรบไปยิงใส่ฝ่ายกะเหรี่ยง แต่ไม่สามารถยึดค่ายทีบาโบได้ ต้องถอนกำลังออกจากค่าย
เจ้าหน้าที่เคเอ็นยู.กองพลน้อยที่ 6 ตรงข้าม จ.ตาก แจ้งว่า ฝ่ายเคเอ็นยูได้เข้าเคลียร์พื้นที่ค่ายทีบาโบ พบว่า ทหารเมียนมาเสียชีวิต 10 นาย ยึดอาวุธปืนได้ 3 กระบอก พร้อมกระสุนปืนหลายชนิดจำนวนมาก ขณะที่ทหารฝ่ายเคเอ็นยู เสียชีวิต 2 นาย ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย