AROUND THAILAND

มูลนิธิเอเชีย เปิดตัวโครงการ “โรงเรียนดีมีทุกที่” ลงพื้นที่ จ.มหาสารคาม

ดร.รัตนา แซ่เล้า เจ้าหน้าที่โครงการอาวุโส มูลนิธิเอเชีย หัวหน้าจัดทำโครงการฯ ร่วมกับเหล่าพันธมิตร อาท สถานทูตออสเตรเลีย,มูลนิธิอานันทมหิดล และความร่วมมือจากสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 อสมท.,สำนักคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้น ฐาน(สพฐ.) และกรุงเทพมหานคร ล่าสุดได้ลงพื้นที่เพื่อจัดทำโครงการ “โรงเรียนดีมีทุกที่” ณ โรงเรียนบ้านกำพี้เหล่ากาเจริญศิลป์ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม ซึ่งถือเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก โดยใช้ชุมชนในพื้นที่เป็นพลังขับเคลื่อน ที่สำคัญในการดูแล และสอนทักษะอาชีพให้กับเด็กๆ พร้อมเผยทุกโรงเรียนต้องมีการปรับตัว เพื่อการอยู่รอด ในขณะที่ล่าสุดภาครัฐ ได้อนุมัติมอบเงินช่วยเหลือ 3,500 ล้านบาท เพื่อเพิ่มค่าอาหารกลางวันให้นักเรียน ทำให้โรงเรียนขนาดเล็กทั่วประเทศ ได้รับอานิสงค์กว่า 36,600 แห่ง

ดร.รัตนา กล่าวว่า “ รร.บ้านกำพี้เหล่ากาเจริญศิลป์ มีนักเรียนจำนวน 120 คน เปิดสอนในระดับอนุบาล-ป.6 เนื่องจากเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ที่ภาครัฐมีนโยบายควบรวม จึงต้องอาศัยชุมชนที่เข้มแข็งคอยสนับสนุน และขับเคลื่อนในด้านการศึกษา ปัจจุบันนอกจากให้หลักสูตรการศึกษาแกนกลางแล้ว ที่โรงเรียนยังมีการเสริม ด้วยหลักสูตรทักษะอาชีพต่างๆ อาทิ การทำสบู่ การคิดวิเคราะห์โดยใช้จินตคณิต การเย็บผ้า เต้นบาสโลบ การร้องเพลง ฯลฯ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จะพัฒนาทักษะของนักเรียนให้ประสบความสำเร็จ หรือเข้มแข็งก่อนจะเติบโต ไปอยู่ในโรงเรียนอื่นๆในชุมชน แต่อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ก็ยังไม่เพียงพอ โรงเรียนควรจะเน้นในเรื่องทักษะวิชาการ เพื่อให้นักเรียนสามารถไปเรียนต่อได้ ทุกวันนี้ความขาดแคลนในทุกสิ่ง เป็นปัญหาที่สำคัญของโรงเรียนขนาดเล็ก ถ้าเราต้องการจะหลุดพ้นในเรื่อง กับดักรายได้ปานกลาง โรงเรียนจะต้องมีทรัพยากร,มีคุณครูสอนนักเรียนครบชั้นในทุกหลักสูตร เพื่อจะทำให้นักเรียนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สิ่งเหล่านี้จะทำให้ประเทศไทยเข้มแข็ง และอยู่ในสังคมโลกได้”

“ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 พ.ย.65 ทางกระทรวงศึกษาธิการ ได้มีการพิจารณาอนุมัติปรับเพิ่มอัตราค่าอาหารกลางวันของนักเรียน ตั้งแต่ระดับชั้นเด็กเล็กถึงชั้น ป.6 ของสถานศึกษาทุกสังกัด จำนวน 51,637 โรง จากปัจจุบันที่ได้รับในอัตรา 21 บาทต่อคนต่อวัน โดยปรับเพิ่มขึ้นในอัตราตามขนาดของโรงเรียน เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ ที่ค่าใช้จ่ายและวัตถุดิบในการประกอบอาหารมีราคาสูงขึ้น โดยการจัดอาหารให้กับนักเรียนในแต่ละมื้อ ต้องคำนึงถึงคุณค่าตามหลักโภชนาการ 5 หมู่ที่นักเรียนควรได้รับ และในปริมาณที่เหมาะสม”

สำหรับการปรับเพิ่มค่าอาหารกลางวันในครั้งนี้ จะแบ่งเป็น 4 กลุ่มคือ

1.โรงเรียนที่มีนักเรียน 1-40 คน จำนวน 16,691 แห่ง รวมนักเรียน 403,768 คน จะได้รับเงินค่าอาหารกลางวัน 36 บาทต่อคนต่อวัน เพิ่มขึ้น 15 บาท คิดเป็น 71.43%

2.โรงเรียนที่มีนักเรียน 41-100 คน 17,437 แห่ง รวมนักเรียน 1,126,246 คน ได้รับ 27 บาทต่อคนต่อวัน เพิ่มขึ้น 6 บาท คิดเป็น 28.57%

3.โรงเรียนที่มีนักเรียน 101-120 คน 1,970 แห่ง ได้รับ 24 บาทต่อคนต่อวัน เพิ่มขึ้น 3 บาท คิดเป็น 14.29% และ

4.โรงเรียนที่มีนักเรียนตั้งแต่ 121 คนขึ้นไป 15,539 แห่ง รวมนักเรียน 4,147,557 คน ได้รับค่าอาหารกลางวัน 22 บาทต่อคนต่อวัน เพิ่มขึ้น 1 บาท คิดเป็น 4.76% โดยการปรับเพิ่มค่าอาหารฯ ดังกล่าว จะเริ่มใช้ในการจัดทำแผนงบประมาณปี 2567 ใช้งบทั้งสิ้น 28,365,864,000 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่กำหนดในอัตรา 21 บาทต่อคนต่อวัน เป็นเงิน 3,533,280,000 บาท

ด้าน นางสุภาพร ลามะให ผู้อำนวยการ รร.บ้านกำพี้เหล่ากาเจริญศิลป์ จ.มหาสารคาม กล่าวว่า “เราดูแลกันโดยใช้หลัก 3 ก้อนเส้า คือ บ้าน วัด โรงเรียน ในปัจจุบันมีครูต่างถิ่น และผู้บริหารที่เวียนเข้ามาบริหาร แต่สิ่งที่จะทำให้เกิดความยั่งยืนได้ก็คือชุมชน ที่จะเข้ามาช่วยเหลือเป็นเครือข่ายในการบริหารบนความขาดแคลน สำหรับหลักสูตรการสอนมีทั้งในด้านวิชาการ,ทักษะชีวิตและอาชีพ มีการนำรุ่นพี่จากโรงเรียนอื่น มาทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อเป็นการจุดประกายสร้างแรงบันดาลใจให้นักเรียน ด้านคุณครูก็จัดให้มีการอบรมเพื่อพัฒนาตนเอง ส่งเสริมในเรื่องการเรียนออนไลน์ แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือการสอนให้มีคุณธรรม มีความสุขในสิ่งที่มี และอย่ามองถึงแต่ความสมบูรณ์เพียบพร้อม เพราะความเก่งต้องดูที่ทักษะชีวิต และความสุขที่ได้รับด้วยค่ะ”

Related Posts

Send this to a friend