กรมชลฯ เร่งระบายน้ำคลองชัยนาท-ป่าสักลด ผลกระทบพื้นที่ด้านท้ายน้ำ
สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีแนวโน้มลดลง กรมชลประทานเร่งระบายน้ำคลองชัยนาท-ป่าสัก ลดผลกระทบพื้นที่ด้านท้ายน้ำ
วันนี้ (12 ต.ค. 64) ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วยนายประยูร เย็นใจ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมชลประทาน (ด้านจัดสรรน้ำและบำรุงรักษา) และผู้เกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในคลองชัยนาท-ป่าสัก และการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสระบุรี และลพบุรี
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า เนื่องจากอิทธิพลของพายุ เตี้ยนหมู่ เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณน้ำในคลองชัยนาท-ป่าสักเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ไหลลอดกำแพงกั้นน้ำบริเวณคลองส่งน้ำ 23 ขวา ชัยนาท-ป่าสัก ช่วง กม.0+100 – 0+250 เข้าท่วมพื้นที่ตำบลสร่างโศก ตำบลตลาดน้อย อำเภอบ้านหมอ ตำบลหนองโดน อำเภอหนองโดน จังหวัดสระบุรี เบื้องต้น โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเริงราง ได้ใช้กล่องลวดตาข่ายใส่หินใหญ่(Gabion) ปิดปากคลองส่งน้ำ 23 ขวา ชัยนาท-ป่าสัก เพื่อลดความแรงของน้ำที่ไหลเข้าคลอง จากนั้นจะทำการปิดรอยรั่วบริเวณกำแพงกั้นน้ำ เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนโดยเร็วต่อไป
ด้านสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ฝั่งซ้ายของคลองชัยนาท-ป่าสัก บริเวณพื้นที่ อ.บ้านหมี่ อ.เมือง จ.ลพบุรีปัจจุบันระดับน้ำเริ่มลดลง กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วบางส่วน ยังคงเหลือพื้นที่บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำทุ่งฝั่งซ้ายคลองชัยนาท-ป่าสัก ที่ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ กรมชลประทาน ได้ทำการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ พร้อมใช้สถานีสูบน้ำริมคลองชัยนาท-ป่าสัก เร่งสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่ลงคลองชัยนาท-ป่าสัก ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำตั้งแต่ ต.หนองเมือง ต.บ้านทราย ต.หนองทรายขาว ลดลงตามลำดับ
ปัจจุบัน(12ต.ค.64) สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยามีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยที่สถานีc2 จ.นครสวรรค์ มีปริมาณไหลผ่าน 2,308 ลบ.ม./วินาที (ลดลง 36 ลบ.ม./วินาที) กรมชลประทาน ได้ปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาลง เหลือในอัตรา 2,424 ลบ.ม./วินาที(ลดลง100ลบ.ม./วินาที) พร้อมปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ลงเหลือ 200 ลบ.ม./วินาที ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักบริเวณท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และเขื่อนพระราม6ลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การระบายน้ำจากคลองชัยนาท-ป่าสัก ทำได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งยังช่วยให้สถานการณ์น้ำที่ท่วมขังในเขต อ.ท่าเรือจ.พระนครศรีอยุธยา ดีขึ้นตามไปด้วย