AROUND THAILAND

เครือข่ายประชาชนไทยเพื่อแม่น้ำโขง ยื่น กสม. สอบผลกระทบโครงการเขื่อนสานะคาม

วันนี้ (7 มิ.ย. 66) คณะทำงานติดตามความรับผิดชอบของการลงทุนข้ามพรมแดน และเครือข่ายประชาชนไทยเพื่อแม่น้ำโขง น นำโดย นายมนตรี จันทวงศ์ กลุ่มเสรีภาพแม่น้ำโขง และชาวบ้านลุ่มแม่น้ำโขงภาคอิสาน นายชัยวัฒน์ พาระคุณ จาก จ.หนองคาย นายอำนาจ ไตรจักร์ จาก จ.นครพนม นายชาญณรงค์ วงศ์ลา จาก จ.เลย เดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อยื่นหนังสือให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ดำเนินการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนจากโครงการเขื่อนสานะคาม ที่จะสร้างผลกระทบในด้านต่าง ๆ

นายมนตรี กล่าวว่า ตัวแทนชาวบ้านลุ่มน้ำโขงภาคอีสาน มายื่นหนังสือกับ กสม.ให้ตรวจสอบประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน หากมีการพัฒนาโครงการไฟฟ้าพลังนํ้าเขื่อนสานะคาม เพราะขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดน และผลการศึกษาที่นำเสนอในกระบวนการตามระเบียบปฏิบัติเรื่องการแจ้ง การปรึกษาหารือล่วงหน้า และข้อตกลง (PNPCA) ก็ไม่มีความชัดเจน จึงต้องการให้ กสม.ตรวจสอบข้อเท็จจริง

นายชาญณรงค์ กล่าวว่า ชาวบ้านกังวลเรื่องการสร้างเขื่อนสานะคาม เพราะอยู่ห่างจากเขตแดนไทยไม่กี่กิโลเมตร หากมีการสร้างจะกระทบต่อระบบนิเวศ อุทกวิทยา ตะกอน ที่จะเปลี่ยนแปลงไปมาก ทั้งที่ผลกระทบจากเขื่อนเก่าทั้งตอนใต้ของจีน และเขื่อนไซยะยังไม่มีการสรุปและทบทวนผลกระทบ แต่ยังมีความพยายามที่จะสร้างเขื่อนใหม่ขึ้นมาเพิ่ม

นายอำนาจ กล่าวว่า ไม่มีการแสดงข้อมูลถึงผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มน้ำโขงที่เก็บมา 9 ปี แต่กลับมีแผนสร้างเขื่อนใหม่มาอีกเรื่อย ๆ สร้างความกังวลให้กับคนลุ่มน้ำโขง

ทั้งนี้หนังสือที่ยื่น กสม.ระบุว่าโครงการเขื่อนสานะคาม เป็นโครงการลําดับที่ 5 ของโครงการเขื่อนขั้นบันได (cascade) ที่ตั้งอยู่บนแม่นํ้าโขงสายประธานตอนล่างในเขตประเทศ สปป.ลาว โดยเขื่อนสะนะคาม ตั้งอยู่บนแม่น้ำโขง เหนือ อ.เชียงคาน จ.เลย ประมาณ 2 กิโลเมตรเท่านั้น โดยมีบริษัท China Datang Overseas Investment Co., Ltd. เป็นผู้พัฒนาโครงการ มีเป้าหมายขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)

เขื่อนสะนะคาม เข้าสู่กระบวนการตามระเบียบปฏิบัติเรื่องการแจ้ง การปรึกษาหารือล่วงหน้า และข้อตกลง (PNPCA) ตามข้อตกลงแม่น้ำโขง (Mekong Agreement 1995) เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2562 ซึ่งดำเนินการไปโดยความไม่สมบูรณ์ของรายงานการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสังคมเนื่องจากมีการใช้ข้อมูลการสำรวจที่ล้าสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นรายงานการศึกษาที่ไม่ศึกษาผลกระทบข้ามพรมแดน และด้วยสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในปี 2563-2564 ได้กำหนดขยายระยะเวลาสิ้นสุดกระบวนการ PNPCA ในวันที่ 19 มกราคม 2565 ปัจจุบันกระบวนการ PNPCA ยังไม่สามารถหาข้อยุติร่วมได้ เนื่องจากขาดการศึกษาที่ชัดเจนต่อผลกระทบข้ามพรมแดน และข้อมูลโครงการที่เป็นปัจจุบัน

หนังสือร้องเรียนถึง กสม.ระบุไว้ว่า “ในกระบวนการ PNPCA นั้น สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRCs) ได้เผยแพร่เอกสาร การทบทวนทางเทคนิค (Technical Reviews Report: TRR) เพื่อประเมินรายงานการศึกษาโครงการเขื่อนสะนะคาม สรุปประเด็นผลกระทบข้ามพรมแดนจากโครงการเขื่อนสะนะคามในประเด็นสำคัญ ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงด้านอุทกวิทยาและชลศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงปริมาณตะกอน การเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ เหล่านี้ ได้นำมาซึ่งผลกระทบข้ามพรมแดนที่เกิดขึ้นทันที”

หนังสือร้องร้องยังระบุอีกว่า “ผลกระทบข้ามแดนทำให้แม่น้ำหิวตะกอน จะเกิดคลื่นกัดเซาะด้านท้ายน้ำอย่างรุนแรงในระยะทาง 100 กิโลเมตรตามลำน้ำโขงท้ายเขื่อน และมีระยะทางไกลไปจนถึงกรุงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ตลอดช่วงเวลา 7 ปีหลังเขื่อนเปิดดำเนินการ และจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงร่องน้ำ ที่เป็นเขตแดนธรรมชาติในแม่น้ำโขง ระหว่างประเทศไทยกับ สปป.ลาว เนื่องจากการกัดเซาะของกระแสน้ำที่ปล่อยจากเขื่อนสะนะคาม”

นางสาวศยามน ไกยูรวงค์ กสม. กล่าวว่า จากการรับฟังข้อมูลเขื่อนสานะคาม กสม.จะจัดเวทีให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้เชี่ยวชาญ ชี้แจงและรับฟังชาวบ้านประมาณต้นเดือนกันยายน ติดตามผลกระทบข้ามแดนจาก สทนช. ถึงข้อกังวล ส่วนประเด็นผลกระทบข้ามพรมแดนที่ กสม.มีขอบเขตจำกัดเฉพาะในประเทศ จะพยายามตรวจสอบข้อเท็จจริงและนำประเด็นข้อกังวลของชาวบ้านที่องค์กรเอกชนได้เก็บข้อมูลและวิเคราะห์มาเป็นข้อมูลทางการของ กสม. เพื่อผลักดันในเวทีกรอบความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ และการแก้กฎหมายสิ่งแวดล้อมเพื่อเป็นการขับเคลื่อนในประเด็นเหล่านี้ต่อไป

นอกจากนี้ชาวบ้านลุ่มน้ำโขงยังเข้ายื่นเอกสารและติดตามการตรวจสอบโครงการเขื่อนปากแบง ที่ผ่านกระบวนการ PNPCA แล้ว อยู่ในระหว่างการรอลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าของ กฟผ. โดยได้รับการชี้แจงจากผู้ตรวจการแผ่นดินว่ากำลังอยู่ในขั้นตอนการเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจง

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat