ชป. เตรียมเพิ่มการระบายเขื่อนเจ้าพระยา หลังคาดการณ์ปริมาณฝนเพิ่มขึ้น 6–8 ก.ย.นี้
ชป. เตรียมปรับเพิ่มการระบายเขื่อนเจ้าพระยา หลังคาดการณ์ปริมาณฝนเพิ่มขึ้น 6–8 กันยายนนี้ แจ้งเตือนพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำใกล้ชิด
ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยาว่า ตามประกาศของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในช่วงระหว่างวันที่ 3 -9 กันยายน 2567 โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้นในช่วงวันที่ 6–8 กันยายนนี้ ประกอบกับเขื่อนสิริกิติ์มีแนวโน้มปรับเพิ่มการระบายน้ำ เพื่อรองรับน้ำหลากในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ ที่สถานีวัดน้ำ C2 เพิ่มสูงขึ้นอยู่ในอัตรา 1,500-1,600 ลบ.ม./วินาที ก่อนจะไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท
กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา โดยรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งสองฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา ตามศักยภาพของคลองชลประทานในอัตราที่เหมาะสม และเพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปตามเกณฑ์การบริหารจัดการน้ำของเขื่อนเจ้าพระยาและสามารถรองรับปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาที่จะเพิ่มขึ้นจากฝนที่ตกในระยะนี้ได้ จึงจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราระหว่าง 1,500–1,700 ลบ.ม./วินาที
ทั้งนี้ จะส่งผลให้ระดับน้ำบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาและพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ บริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง, คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา, แม่น้ำน้อยบริเวณตำบลหัวเวียง อ.เสนา, ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดน อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพิ่มสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 20-50 เซนติเมตร
อย่างไรก็ตาม คณะอนุกรรมการอำนวยการด้านบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เห็นชอบให้กรมชลประทาน ปรับเพิ่มการระบายน้ำแบบขั้นบันไดผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราไม่เกิน 2,000 ลบ.ม./วินาที โดยจะควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าวอย่างเต็มศักยภาพของพื้นที่ ลดผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชนและพื้นที่การเกษตรให้มากที่สุด พร้อมทำหนังสือแจ้งเตือนไปยังจังหวัดในพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แจ้งเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังระดับน้ำและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด