ตลาดแนวชายแดนตากใบร้าง มวลน้ำจาก 3 อำเภอจ่อระบายลงทะเล
ความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมจากพื้นที่ จ.นราธิวาส วันนี้ (3 ธ.ค. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าล่าสุดสภาวะฝนยังคงตกกระจายปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ เป็นช่วงๆ แต่เบาบางลงเมื่อเทียบกับช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ปริมาณมวลน้ำจากพื้นที่ อ.สุคิริน และอ.แว้ง ที่ไหลลงมาสมทบลงในแม่น้ำสุไหงโก-ลก ค่อยๆ ระบายสู่ทะเลด้านปากอ่าว อ.ตากใบ ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำของแม่น้ำสุไหงโก-ลก ซึ่งล้นจากระดับตลิ่งสูง 2.18 เมตรเมื่อวานที่ผ่านมา เช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.82 เมตร โดยลดลง 36 ซ.ม. เนื่องจากมวลน้ำก้อนดังกล่าวได้ไหลผ่านไปรวมอยู่ที่เขตรอยต่อระหว่าง ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก กับ ต.นานาค อ.ตากใบ ส่งผลทำให้พื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนของประชาชน ที่ปลูกสร้างอยู่แนวริมตลิ่ง โดยเฉพาะบ้านกัวลอต๊ะ ม.4 ต.นานาค ที่มีชาวบ้านอาศัยอยู่ จำนวน 163 ครัวเรือน รวม 335 คน ถูกน้ำท่วมขังสูงโดยเฉลี่ย 30 ถึง 50 ซ.ม.
โดยเฉพาะตลาดการค้าแนวชายแดน ซึ่งมีชื่อเสียงของ อ.ตากใบ ที่อยู่ตรงกันข้ามกับบ้านกัวลอยามู เมืองตุมปัส รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ร้านค้าและเพิ่งจำหน่ายสินค้าต่างๆ ของชาวบ้านที่ปลูกไว้แนวริมตลิ่งมีสภาพกลายเป็นเมืองร้าง เนื่องจากมีระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร โดยชาวบ้านได้นำเรือยนต์และเรือพายไปจอดแทนเป็นการชั่วคราว
นอกจากนี้ ชาวบ้านที่มีอาชีพเลี้ยงสัตว์ได้อพยพมาอาศัยอยู่บนถนน บางครอบครัวอพยพมาอาศัยอยู่บนถนน โดยมีเต๊นท์ของแต่ละอำเภอกางให้อาศัยอยู่เป็นการชั่วคราว รวมทั้งโรงเรียนในสังกัดสำนักงานพื้นที่ประถมศึกษานราธิวาส ทั้ง 3 เขต มีน้ำท่วมขังจนต้องประกาศปิดการเรียนการสอนเป็นการชั่วคราว จำนวน 35 โรง
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจ.นราธิวาส สรุปสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.นราธิวาส ทั้ง 13 อำเภอ โดยมีปริมาณฝนตกหนักที่สุดในพื้นที่ อ.สุคิริน วัดได้ 166.8 ม.ม. รองลงมาพื้นที่ อ.แว้ง วัดได้ 153.4 ม.ม. มีสภาวะน้ำท่วมบ้านเรือนของประชาชน 322 หมู่บ้าน 56 ชุมชน 63 ตำบล มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 17,294 ครัวเรือน รวม 47,745 คน ส่วนแนวโน้มฝนที่ตกลงมามีสภาพค่อยๆเบาบางลง
