HEALTH

กินแฮมเบอร์เกอร์แบบสุขภาพดี อย่าลืมกินผักใบเขียว-ผลไม้ ช่วยชะลอการดูดซึมไขมันและโซเดียมในร่างกาย

แม้ไม่ได้มีข้อห้ามในการรับประทานอย่างสิ้นเชิง แต่การบริโภคอย่างชาญฉลาด สามารถช่วยให้สุขภาพดีได้ ล่าสุดกับแฮมเบอร์เกอร์เจ้าดัง ที่พึ่งเปิดตัวล่าสุด เพื่อเอาใจคนรักการกินชีส ด้วยเบอร์เกอร์ชีสล้วน ที่อัดแน่นด้วยชีสถึง 20 แผ่น ในราคาที่เข้าถึงได้ งานทำให้วัยรุ่นวัยทีนส์ อดไม่ได้ที่จะไปทดลองชิม ให้สมกับการรอยคอยชีสแน่นๆ ที่จัดมาอย่างจุใจอย่างนี้ ทว่าสิ่งที่มาพร้อมกับอาหารฟาสต์ฟูดส์ดังกล่าว คือโซเดียม ไขมัน ที่ได้จากชีสซึ่งต้องผ่านการหมักบ่มร่วมกับเกลือ กระทั่งผ่านกระบวนการต่างๆ จนได้เชดดาร์ชีส หรือเนยแข็งธรรมชาติชนิดหนึ่ง ที่มีเนื้อค่อนข้างแข็ง มีสีขาวหม่นอกเหลือง (หรือมีสีส้มถ้าเติมสารให้สี เช่น อันนัตโต) ที่นิยมนำแฮมเบอร์เกอร์ เพื่อให้หนุ่มสาวยุคใหม่ บริโภคเมนูดังกล่าวแบบสุขภาพดี ไม่กระทบอวัยวะในร่างกาย เช่น หัวใจ ไต และไม่ตกเทรนด์เมนูต้องลอง ที่ห้ามพลาดนั้น

The Reporters ได้สอบถามไปยัง “แววตา เอกชาวนา” นักกำหนดอาหารวิชาชีพอิสระ และที่ปรึกษาโครงการกินผักและผลไม้ดี วันละ 400 กรัม จาก สสส.ให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริโภคแฮมเบอร์เกอร์ ที่อัดแน่นด้วยชีสล้วนถึง 20 แผ่นไว้น่าสนใจ ที่นอกจากไม่อ้วนและไม่เลี้ยนแล้ว ที่สำคัญยังช่วยทำให้ระบบขับถ่ายทำงานดี โดยเฉพาะการกินเบอร์เกอร์กับผักสีเขียว เช่น ผักสลัดที่สั่งแยกต่างหาก หรือผักใบเขียวชนิดต่างๆ ที่ล้างทำความสะอาดแช่ไว้ในตู้เย็น เพื่อช่วยชะลอการดูดซึมไขมันในชีสได้ดีอีกด้วย ที่งานนี้กินเบอร์เกอร์ชีสแน่นๆอย่างไร ก็ไม่อ้วนไม่ลงพุงแน่นอน

แววตา ให้ข้อมูลว่า “เนื่องจากขั้นตอนในการทำชีส 1 ชนิด หลักการโดยประมาณนั้น จะต้องประกอบกับการหมักเชื้อรา หรือสตาร์ทเตอร์ (starter) ที่ได้จากการเพาะเลี้ยงเชื้อราเริ่มต้น ร่วมกับนม จนหมักบ่มได้เข้าที่ และเติมเกลือลงไป รวมถึงนำไปกวน ด้วยอุณหภูมิประมาณ 37.8 องศาในระยเวลาหนึ่ง กระทั่งนำมาเทในถาดเพื่อรอให้เซ็ทตัว และได้ออกมาเป็นชีส โดยสรุปแล้วชีส 1 ชนิดนั้นจะประกอบด้วย โปรตีน ไขมัน และเกลือ หรือโซเดียม และชีสที่นำมาทำแฮมเบอร์เกอร์ส่วนใหญ่นั่น มักเป็นเชดดาชีส (Cheddar Cheese) ซึ่งมักจะมีทั้งโซเดียมและไขมันสูง ขณะที่ คอตเทจชีส (Cottage Cheese) หรือ ชีสสด ทำมาจากนมพร่องมันเนย มีไขมันต่ำแต่ให้โปรตีนสูง มีรสชาติอ่อน อมหวานของนม เป็นเม็ดกลมๆ เล็กๆคล้ายข้าวโพดคั่ว จนบางครั้งถูกเรียกว่า ป็อปคอนชีส (Popcorn Cheese) หรือชีสที่กินแล้วสุขภาพดี นิยมนำไปใส่ในขนมปังปิ้ง,แซนด์วิช,ผสมกับซีเรียล,ใส่ในเมนูไข่กวน เป็นต้น”

“ทั้งนี้เชดดาชีส (Cheddar Cheese) ที่นำมาทำแฮมเบอร์เกอร์ เป็นจำนวนถึง 20 แผ่นนั้น จะให้พลังงานสูงทั้งโซเดียม และไขมัน นั่นจะทำให้อวัยวะต่างๆในร่างกาย ทำงานหนักมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นหัวใจ ไต ที่สำคัญในชีสชนิดนี้ยังมีไขมันอิ่มตัวสูง จึงเป็นสาเหตุของคอเลสเตอรอลสูงได้เช่นกันหากรับประทานในปริมาณที่มาก ดังนั้นการบริโภคอาหารฟาสต์ฟูดส์ หรือแฮมเบอร์เกอร์ชีสแน่นๆนั้น ควรกินคู่กับผักและตามด้วยการกินผลไม้ เพื่อช่วยชะลอทั้งการดูดซึมแป้ง ที่ได้จากขนมปัง และไขมันรวมถึงเกลือที่อยู่ในเชดดาชีส และในผักรวมถึงผลไม้จะมีกากอาหารสูง จึงช่วยย่อยได้ดีเช่นกัน เมื่อรับประทานเมนูฟาสต์ฟูดส์ดังกล่าว”

“ที่สำคัญผักสดที่แนะนำให้รับประทาน คู่กับแฮมเบอร์เกอร์ชีสแน่นนั้น สามารถบริโภคผักใบเขียวได้ทุกชนิด เช่น ผักที่อยู่ในกลุ่มของสลัด เช่น ผักเคล,ผักเรดโอ๊ค,กรีนโอ๊ค,บัตเตอร์เฮด,เรดโครอล,ผักกาดแก้ว คอส,ไวล์ดร็อคเก็ต,เบบี้ ร็อคเก็ต ที่ล้างทำความสะอาดใส่ไว้ในตู้เย็น หรือจะสั่งเมนูสลัดที่อยู่ภายในร้านจำหน่าวยแฮมเบอร์เกอร์เจ้าดังกล่าว มารับประทานคู่กับแฮมเบอร์เกอร์ก็ได้เช่นกันค่ะ เพียงแต่ว่าไม่ควรราดน้ำสลัด ที่มีครีมลงไปในจานสลัด (กินสลัดเปล่า) ที่สำคัญไม่แนะนำให้กินเพียง ผักที่ใส่มาในแฮมเบอร์เกอร์ดังกล่าว แต่ควรรับประทานผักในกลุ่มดังกล่าวเพิ่ม เพราะในผักใบเขียวทุกชนิดที่กล่าวมา จะมีโฟแทสเซียมซึ่งจะช่วยคุมคุมระดับความดันโลหิต จากการบริโภคอาหาร ที่มีเกลือหรือโซเดียมสูงได้เช่นกันค่ะ ”

“ที่สำคัญแนะนำให้กินแฮมเบอร์เกอร์ดังกล่าวในมื้อกลางวัน เพราะเป็นช่วงที่เรามักจะใช้พลังงานเยอะ เช่น เดินไปมาในที่ทำงาน หรือ เป็นช่วงเวลาที่เรามักจะได้ขยับร่างกาย ได้ดีกว่าการรับประทานเป็นมื้อเย็นหรือมื้อดึก และเข้านอนทันที ซึ่งจะยิ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพ หากไม่ได้รับประทานร่วมกับผักหรือผลไม้ และตามด้วยน้ำอัดลม”

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat