สธ.เผยไทยพบสายพันธุ์ลูกผสม XBB.1.16 เพิ่ม 6 ราย ย้ำ ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยไทยพบสายพันธุ์ลูกผสม XBB.1.16 เพิ่ม 6 ราย ย้ำมาตรการป้องกันส่วนบุคคล ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ลดการป่วยหนัก-เสียชีวิต
วันนี้ (25 เม.ย. 66) นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อัพเดทสถานการณ์การเฝ้าระวังโควิด-19 โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับเครือข่ายห้องปฏิบัติการ ติดตามการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์เชื้อไวรัส SARS-CoV-2 อย่างต่อเนื่อง
นายแพทย์ศุภกิจ กล่าวว่า ล่าสุดองค์การอนามัยโลกปรับชนิดสายพันธุ์ที่ติดตามใกล้ชิด ได้แก่
1) สายพันธุ์ที่เฝ้าระวัง หรือ Variants of Interest (VOI)
2 สายพันธุ์ ประกอบด้วย XBB.1.5 และ XBB.1.16
3) สายพันธุ์ที่ต้องจับตามอง หรือ Variants under monitoring (VUM) 6 สายพันธุ์ ประกอบด้วย BA.2.75 CH.1.1 BQ.1 XBB XBB.1.9.1 และ XBF
สำหรับสถานการณ์สายพันธุ์ XBB.1.5 และ XBB.1.16 ทั่วโลก อ้างอิงจากฐานข้อมูลกลาง GISAID ในรอบสัปดาห์ 27 มี.ค. – 2เม.ย 66 พบจำนวนเพิ่มขึ้นจากรอบสัปดาห์ 27 ก.พ. – 5 มี.ค. 66 ดังนี้
1) XBB.1.5 รายงานจาก 96 ประเทศ คิดเป็นร้อยละ 50.8 เพิ่มจากร้อยละ 46.2
2) XBB.1.16 รายงานจาก 31 ประเทศ คิดเป็นร้อยละ 4.2 เพิ่มจากร้อยละ 0.5
เมื่อคาดการณ์จากความได้เปรียบในการเพิ่มจำนวนและความสามารถในการหลบภูมิคุ้มกันแล้ว XBB.1.16 อาจแพร่กระจายไปทั่วโลกและมีส่วนทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่มีหลักฐานการเพิ่มความรุนแรงของโรค
สำหรับประเทศไทย พบเพิ่ม XBB.1.16 จำนวน 6 ราย XBB.1.16.1 จำนวน 1 ราย ทำให้ขณะนี้ประเทศไทยพบ XBB.1.16 และ XBB.1.16.1 รวมเป็น 34 ราย โดยสัดส่วนสายพันธุ์ XBB.1.16 คิดเป็น 9.8% ของสายพันธุ์ที่ตรวจในสัปดาห์นี้ ส่วนสายพันธุ์ XBB.1.5 เป็นสายพันธุ์ที่พบมากที่สุด คิดเป็น 28% ในขณะที่ BN.1 ซึ่งเคยเป็นสายพันธุ์หลักในไทยมีสัดส่วนลดลง
นายแพทย์ศุภกิจ กล่าวต่อว่า กรณีผู้เสียชีวิตชาวเมียนมาที่มีผลตรวจ ATK เป็นบวก พบเป็นสายพันธุ์ XBB.1.16.1 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของ XBB.1.16 มีการกลายพันธุ์เพิ่มเติมจากสายพันธุ์แม่ เป็นการกลายพันธุ์แรกที่พบในกลุ่ม XBB.1.16 อาจช่วยให้หลบภูมิคุ้มกันได้ดีกว่าสายพันธุ์แม่ ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ XBB.1.16.1 จำนวน 2 ราย ขณะเดียวกัน XBB.1.16 ยังคงพัฒนาต่อไปตามธรรมชาติของไวรัสเพื่อให้มีความได้เปรียบในการเพิ่มจำนวนที่สูงขึ้น
ปัจจุบันพบ XBB.1.16 มีการกลายพันธุ์ เพิ่มเติมอีก ซึ่งพบมากในอินเดียและสหรัฐอเมริกา อาจถูกกำหนดชื่อเป็นสายพันธุ์ย่อยอื่นอีก อย่างไรก็ตาม ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก สำหรับผู้ติดเชื้อชาวเมียนมาไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 จึงเกิดผลกระทบต่อสุขภาพมากกว่าปกติ
“กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์อย่างใกล้ชิด โดยได้ประสานขอให้โรงพยาบาลทั่วประเทศส่งตัวอย่างผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วประเทศ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาตรวจสายพันธุ์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในรายที่มีอาการรุนแรง หรือเสียชีวิต สำหรับประชาชนมาตรการป้องกันส่วนบุคคล การล้างมือ สวมหน้ากากอนามัยหากต้องไปร่วมกิจกรรมที่มีคนจำนวนมากหรือไปในที่สาธารณะ และการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ยังมีความจำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง 608 จะช่วยลดอาการหนักและเสียชีวิตได้ และขอให้ความมั่นใจว่ากรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และเครือข่าย ยังคงเฝ้าระวังติดตามการกลายพันธุ์ของเชื้อ SARS-CoV-2 อย่างต่อเนื่อง และเผยแพร่บนฐานข้อมูลสากล GISAID อย่างสม่ำเสมอ” นายแพทย์ศุภกิจ กล่าว