ผบ.ตร.แถลงผลปฎิบัติการ “ทลายอาณาจักร ซัวมาเฟียคาสิโนออนไลน์”

ผบ.ตร.นำทีมตำรวจสอบสวนกลาง แถลงผลปฎิบัติการ “ทลายอาณาจักร ซัวมาเฟียคาสิโนออนไลน์” บุกค้นบริษัทกว่า 30 แห่ง หลังพบหลักฐานโยงการสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการออนไลน์ พร้อมจับผู้ต้องหา 6 ราย และอายัดทรัพย์ได้กว่า 1,400 ล้านบาท

วันนี้ (3 มี.ค. 66) เวลา16:00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และคณะ แถลงผลการเข้าตรวจค้น และจับกุมผู้ต้องหา ในชื่อ “ยุทธการทลายอาณาจักร ซัวมาเฟียคาสิโนออนไลน์” จำนวน 6 ราย พร้อมอายัดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 1,400 ล้านบาท

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า ตำรวจมีข้อมูลทางการสืบสวนที่ชัดเจนว่า นายธีรพงศ์ เป็นผู้ถือหุ้น หลายบริษัทที่อยู่ในเครือ เป็นต่อกรุ๊ป และยังมีประวัติถูกออกหมาย ในคดีฉ้อโกงเงิน แอร์โฮสเตส คนหนึ่ง โดยทางการสืบสวนพบว่า นายธีรพงศ์ เข้าไปเกี่ยวข้องในลักษณะ มีชื่อเป็นผู้รับเงิน จากบัญชีม้า และแก๊งคอลเซนเตอร์ที่หลอกลวงเงินจากแอร์โฮสเตส ซึ่งเป็นคดีในท้องที่ทองหล่อ จากนั้นเมื่อขยายผลจากเส้นทางการเงิน จึงพบความเชื่อมโยงของนายธีรพงศ์ มีการสั่งจ่ายเงินที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์กว่า 300 ล้านบาทให้กับกลุ่มบุคคลอื่นๆ

ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ระบุว่า กลุ่มบริษัทในเครือเป็นต่อกรุ๊ป ส่วนใหญ่ จัดทำบริษัทผลิตเกมส์ , ผลิตโปรแกรม, พัฒนาซอฟต์แวร์,จัดการบัญชี,จดทะเบียนพาณิชย์, ธุรการทางการเงิน และทำการตลาด โดยผลการตรวจสอบเชิงลึก พบว่า มีบริษัทกว่า 30 แห่ง ที่อยู่ในเครือเป็นต่อกรุ๊ปมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ ซึ่งเบื้องต้น ได้สั่งให้ระงับการดำเนินกิจการไว้ทั้งหมดแล้ว

สำหรับพฤติการณ์เชิงลึกของสารวัตรซัว ในอดีตเริ่มจากการเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มหรือเว็บไซต์ขนาดเล็ก จนเริ่มขยายธุรกิจ และซื้อซอฟแวร์สำเร็จรูป จากต่างประเทศมาพัฒนาต่อ และจัดขาย ให้กับกลุ่มที่ทำธุรกิจเว็บพนันออนไลน์ รวมทั้งมีในลักษณะแบ่งเปอร์เซ็นต์อีกด้วย

ข้อมูลที่พบขณะนี้ มีเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องหว่า 400 เว็บไซต์ ซึ่งดำเนินการปิดไปแล้วประมาณ 200 เว็บไซต์ โดยในจำนวนนี้จะมีเว็บไซต์พนันออนไลน์ มาเก๊า 888 อยู่ด้วยหรือไม่ จากการสันนิษฐาน คาดว่าอยู่คนละเครือข่ายกัน แต่ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลต่อ

ส่วนการติดตามตัวสารวัตรซัว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติระบุว่า มีหมายจับร่วมกันฉ้อโกง และร่วมจัดให้มีการเล่นการพนัน แต่ตัวสารวัตรซัว ยังคงอยู่ในต่างประเทศ

ส่วนกรณีมีนายตำรวจยศ พลตำรวจโท นายหนึ่งเข้าไปเกี่ยวข้องกับสารวัตรซัว ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยเบื้องต้น ยังไม่พบความเชื่อมโยงทั้งพยานหลักฐาน และเส้นทางการเงินไปยังสารวัตรซัว พร้อมยืนยันว่าหากตรวจสอบพบความผิด ก็จะมีกำดำเนินคดีไม่มีละเว้น

สำหรับผลปฏิบัติการ ตำรวจสอบสวนกลาง ได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าว รวมหมายจับทั้งสิ้น 14 หมาย (เป็นหมายจับสารวัตรซัว และนายจิ๋ว จำนวน 2 หมาย และเป็นหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องในคดีพนันออนไลน์ที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายสารวัตรซัว อีก 12 หมาย) โดยในวันนี้มีการเข้าตรวจค้น และจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 6 ราย พร้อมตรวจยึดทรัพย์จากผู้ต้องหาได้มากกว่า 100 รายการ อาทิ รถยนต์ราคาแพง 3 คัน, โฉนดที่ดินรวมกว่า 440 ไร่, สมุดบัญชีธนาคารอีก 184 บัญชี และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 100 รายการ รวมทั้งยังพบ ยาเสพติดเป็นยาเค 30 กรัม ในการตรวจค้นที่สมุทรปราการด้วย ซึ่งรวมมูลค่าของกลางทั้งหมด กว่า 1,400 ล้านบาท

ด้านนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ได้เข้าร่วมสังเกตุการณ์แถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย ระบุว่า ตนเชื่อว่าคดีนี้ไม่ง่าย และเชื่อว่าโครงข่ายของสารวัตรซัวยังมีอีกมาก อย่างไรก็ตาม ตนก็ยังเชื่อว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการไว้หมดแล้ว พร้อมกล่าวขอบคุณในนามของประชาชนทุกคน แต่ตนก็ยังยืนยันว่ากรณีของสารวัตรซัว คือเป็นระดับโรงงานผลิตเว็บไซต์ ดังนั้นสารวัตรซัว จึงอยู่เหนือกว่าระดับเว็บไซต์ธรรมดา เมื่อมีเรื่องไม่ใช่ว่าจะจับได้ภายใน2-3 วัน แต่อาจจะต้องใช้ระยะเวลา