Binance เตรียมส่งมอบ BNB มูลค่ารวมกว่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้แก่ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ณ ประเทศตุรกี

นายฉางเผิง จ้าว ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Binance หรือแอพพลิเคชั่นในการแลกเปลี่ยน ซื้อขายเหรียญดิจิทัล ล่าสุดเตรียมมอบเหรียญ BNB (Airdrop) มูลค่ารวมกว่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 94 ล้านลีราตุรกี หรือนับเป็น 100 เหรียญสหรัฐต่อราย ให้แก่ผู้ใช้งานแอพพลิชั่น Binance ทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบจากโศกนาฏกรรมแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดที่ประเทศตุรกี ด้วยการใช้ระบบหลักฐานแสดงที่อยู่ (Proof of Address – POA) เพื่อระบุตัวตนผู้ใช้ใน 10 เมือง ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ได้แก่ คาห์รามันมาราช,คิลิส,ดิยาร์บาคีร์,อาดานา,ออสมานิเย,กาเซียนเท็ป,ชานลึอูร์ฟา,อดิยามาน,มาลัตยา และฮาไต ซึ่งถึงแม้ว่าวิธีการ POA อาจจะยังมีข้อจำกัดและไม่แม่นยำมากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นวิธีการที่ดีที่สุด ในการระบุที่อยู่ ของผู้ใช้งานที่ได้รับผลกระทบ
นายฉางเผิง กล่าวว่า “เนื่องจากภัยพิบัติทางธรรมชาติดังกล่าว ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงระบบธนาคารแบบเดิม เพื่อนำเงินไปซื้อเวชภัณฑ์ อาหาร และของใช้ที่จำเป็นอื่นๆขณะนั้นได้ ทำให้การโอนเหรียญคริปโต ถูกนำมาใช้เพื่อส่งมอบความช่วยเหลือ ทางการแก่ผู้ประสบภัยมากขึ้น เนื่องจากวิธีการดังกล่าวมีความรวดเร็ว ต้นทุนต่ำ ไร้พรมแดน และโปร่งใส อีกทั้งแผ่นดินไหวที่ตุรกีได้ส่งผลกระทบต่อผู้คนและชุมชนเป็นอย่างมาก ซึ่งเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความพยายามของเราจะช่วยบรรเทาสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขาได้ โดยเรายังได้ประสานงาน กับเหล่าเพื่อนร่วมงานในอุตสาหกรรมเพื่อร่วมมือกัน ในช่วงเวลาวิกฤตินี้ด้วยเช่นกัน”
ปัจจุบัน Binance Charity ได้เปิดตัวที่อยู่กระเป๋าเงินคริปโต สำหรับบริจาคเพื่อสาธารณกุศล โดยเหรียญทั้งหมดที่ถูกโอนเข้ามายังที่อยู่ดังกล่าว จะถูกแปลงเป็นสกุลเงินลีราตุรกี ก่อนส่งมอบให้กับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ที่ได้รับอนุญาตในการประสานงาน ไปยังผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ ทั้งนี้ การบริจาคเพื่อช่วยเหลือฉุกเฉิน จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว จะยอมรับเฉพาะการโอนด้วยเหรียญ BTC, ETH, BNB, BUSD และ XRP เท่านั้น”
ทั้งนี้ Binance Charity มีความมุ่งมั่นที่จะมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ผ่านความร่วมมือกับองค์กรชั้นนำที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เราสามารถทำงาน และเข้าถึงความต้องการของกลุ่มคนเปราะบางได้อย่างเร็วที่สุด รวมถึงการนำเสนอโซลูชันนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น การช่วยเหลือทางการเงินที่รวดเร็ว ไร้พรมแดน รวมถึงการจัดสรรโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้ผู้ประสบภัยสามารถเข้าถึงเงินได้โดยตรงทุกที่ ทุกเวลาที่ต้องการ นอกจากนี้ยังรวมถึงการเข้าถึงชุมชนท้องถิ่น เพื่อส่งมอบปัจจัยพื้นฐาน เช่น อาหาร เวชภัณฑ์ ที่พักอาศัย และน้ำสะอาด ตามที่พวกเขาต้องการอีกด้วย