‘สมศักดิ์’ มอบเหรียญยุติธรรมธำรง – ที่ปรึกษา ป.ป.ส. ให้ ‘ชูวิทย์’
‘สมศักดิ์’ มอบเหรียญยุติธรรมธำรง ให้ ‘ชูวิทย์’ พร้อมตำแหน่งที่ปรึกษา ป.ป.ส. ยกเป็นคนดี เป็นแบบอย่างให้ของสังคมในการแจ้งเบาะแสยาเสพติด หลังยื่นหลักฐานสำคัญเกี่ยวกับคดียาเสพติดของผับจินหลิง
‘สมศักดิ์’ มอบเหรียญยุติธรรมธำรง ให้ ‘ชูวิทย์’ พร้อมตำแหน่งที่ปรึกษา ป.ป.ส. ยกเป็นคนดี เป็นแบบอย่างให้ของสังคมในการแจ้งเบาะแสยาเสพติด หลังยื่นหลักฐานสำคัญเกี่ยวกับคดียาเสพติดของผับจินหลิง
วันนี้ (8 ธ.ค. 65) 14:50 น. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มอบเหรียญยุติธรรมธำรง เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติให้กับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมือง จากการเปิดเผยข้อมูลหลักฐาน และแจ้งเบาะแสที่สำคัญเกี่ยวกับคดียาเสพติด ของสถานบันเทิงจินหลิง ให้กับเจ้าหน้าที่ในการปราบปรามกลุ่มทุนจีนสีเทาที่ทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด
นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า นายชูวิทย์เป็นคนดี และเป็นบุคคลที่กระทรวงยุติธรรมได้เห็นว่าการคืนคนดีสู่สังคมเคยต้องโทษ เคยจำคุก ซึ่งปกติแล้วเหรียญเชิดชูเกียรตินี้จะไม่มอบให้ แต่ตนเองได้พิจารณาเป็นเรื่องพิเศษ เห็นว่าหาบุคคลแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว ที่จะกล้าทำเพื่อสังคมเพราะยาเสพติดมันทำลายล้างมนุษยชาติ เหรียญนี้จึงเป็นเหรียญเชิดชูเกียรติให้กับนายชูวิทย์ และเป็นความเห็นที่ทุกคนภายในกระทรวงยุติธรรมเห็นด้วย
นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ยังได้ส่งหนังสือเรียนเชิญนายชูวิทย์ ให้นั่งตำแหน่งที่ปรึกษาเลขาธิการ ป.ป.ส. โดยกล่าวว่า จากทำผลงานให้กับสังคมที่เกี่ยวกับยาเสพติด จึงขอมอบให้ แต่ถ้าจะเอาห้องทำงานที่นี่ ตนก็จะสลับห้องให้ รวมทั้งตนเองยังได้จัดชุดคุ้มครองพยานให้นายชูวิทย์ หากมีความประสงค์ให้คุ้มครองหรืออยากให้คุ้มครองบุคคลใดที่คอยแจ้งข้อมูลข่าวสารเรื่องยาเสพติด สามารถใช้ชุดคุ้มครองพยานได้ ทางเราได้เตรียมไว้ให้เรียบร้อย
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตนได้มอบรางวัลในกรณีพิเศษของบุคคลที่ทำความดี เป็นแบบอย่างให้กับสังคมไทย ในการแจ้งเบาะแสเรื่องยาเสพติด ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่ตนกลุ้มใจมานาน ทำไมถึงไม่มีคนแจ้งเบาะแสยาเสพติด และแจ้งเข้ามาน้อยมากเพราะเกรงกลัวอิทธิพลมืด ตนจึงอยากให้การมอบรางวัลให้กับนายชูวิทย์ในครั้งนี้ ขอให้เป็นตัวอย่างแก่ประชาชน หากบุคคลใดที่กลัวไม่ได้รับความปลอดภัยในการแจ้งเบาะแส ก็สามารถมาแจ้งขอให้มีการคุ้มครองพยานจากทาง ป.ป.ส. ได้
ด้านนายชูวิทย์ กล่าวว่า ชีวิตนี้ตนเองได้เกินกำไรคือได้ทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ และดีใจที่ได้ออกมาแฉขบวนการและได้รับการตอบสนองเป็นอย่างดี ดังนั้น สิ่งที่จะทำหลังจากนี้ ตนยินดีที่จะทำให้ทุกคนเห็นว่ายาเสพติดเป็นพิษร้ายแรงแค่ไหน และการยึดอายัดทรัพย์ ไม่ใช่เพียงแค่ตำรวจจับแล้วจบ แต่มันยังไปถึงชั้นอัยการ ชั้นศาล และการกระทำเรื่องยาเสพติด จะต้องกระทำอย่างรอบคอบ เพราะเป็นการสู้กับทุนสีดำต่างชาติ ทั้งนี้ ในที่ประชุมตนได้บอกวิธีการนำเงินเข้าและนำเงินออกด้วยวิธีการต่างๆให้กับคณะทำงานแล้ว
นายชูวิทย์ ยังกล่าวด้วยว่า คาดไม่ถึงว่าจะได้รับการเทียบเชิญให้รับตำแหน่งที่ปรึกษาเลขาธิการ ป.ป.ส. แต่ทั้งหมดทั้งมวลที่ได้คุยกับท่านสมศักดิ์ ตนรู้สึกว่าท่านพร้อมลุยเอาจริง อย่างไรก็ตาม ตนมีเรื่องกังวลและเรื่องที่ดีใจ โดยสิ่งที่กังวล คือ คดียาเสพติดของนายตู้ห่าวมีมากมาย แต่ทรัพย์สินที่เป็นโรงแรมยังคงเปิดกิจการอยู่ เจ้าหน้าที่จะต้องเข้าไปตรวจสอบอย่างเร่งด่วนก่อนที่จะมีการโยกย้าย และนายตู้ห่าวค่อนข้างมีอิทธิพล อย่างตอนตรวจปัสสาวะที่ผับจินหลิงมีหลักร้อย แต่ตอนนี้เหลือหลักสิบ ไม่รู้ว่าถึงวันนั้นจะเหลือกี่รายที่ปรากฏผลปัสสาวะว่ามีการเสพยาเสพติด
นายชูวิทย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนเองได้บอกความกังวลนี้ให้กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และท่านสมศักดิ์แล้วว่า ถ้านายตู้ห่าวหลุด ตนกลัวว่าหลายๆ คนจะเอาหน้าไว้ที่ไหน กล้าพูดเลยว่า นายตู้ห่าวจะเป็นมวยล้มต้มคนดูไม่ได้ ถ้าสู้แล้วมาหลุดเอาตอนท้าย มันจะล้มเป็นโดมิโน่ เสียทั้งหน้าและทุกอย่าง ทั้งนี้ ตนขอขอบคุณในการมอบเหรียญ แม้มูลค่าไม่เยอะ แต่สิ่งที่ตนได้ทำไว้ เมื่อผู้ใหญ่เล็งเห็นในคุณค่า จึงต้องรับไว้ ส่วนเรื่องการรับตำแหน่งที่ปรึกษาเลขาธิการ ป.ป.ส. นั้น ตนจะขอเก็บไว้พิจารณาก่อน เนื่องจากทั้งชีวิตที่ผ่านมา ได้ผ่านตำแหน่งนี้มานับไม่ถ้วนแล้ว