’รวมไทยสร้างชาติ’ เลือก ‘พีระพันธุ์’ นั่งหัวหน้า ‘เอกณัฏ’ เป็นเลขาธิการ
’รวมไทยสร้างชาติ’ เลือก ‘พีระพันธุ์’ นั่งหัวหน้า ‘เอกณัฏ’ เป็นเลขาธิการ ปัดสัญญาณหนุน ‘ประยุทธ์’ เน้นวิสัยทัศน์พรรค แก้กฎหมายล้าสมัย-สร้างสังคมเท่าเทียม
วันนี้ (3 ส.ค. 65) ที่สโมสรราชพฤกษ์ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร พรรครวมไทยสร้างชาติจัดการประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1/2565 โดยมีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จำนวน 9 คน ดังนี้
- นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ตำแหน่ง หัวหน้าพรรค
- นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ตำแหน่ง เลขาธิการพรรค
- นายเกรียงยศ สุดลาภา ตำแหน่ง นายทะเบียนพรรค
- นายปรากรมศักดิ์ ชุณหะวัณ ตำแหน่ง เหรัญญิกพรรค
- รองศาสตราจารย์ (พิเศษ) ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง ตำแหน่ง กรรมการบริหารอื่น
- นายวิทยา แก้วภราดัย ตำแหน่ง กรรมการบริหารอื่น
- นายชื่นชอบ คงอุดม ตำแหน่ง กรรมการบริหารอื่น
- นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร กรรมการบริหารอื่น
- นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ กรรมการบริหารอื่น
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เปิดเผยภายหลังได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า วันนี้นับเป็นครั้งแรกของการประชุมพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งมีเพื่อนพี่น้องร่วมอุดมการณ์เดียวกันที่มีความตั้งใจที่จะเข้ามาทำงานเพื่อบ้านเมือง และได้มีโอกาสกลับมารวมตัวเพื่อทำงานกันอีกครั้งหนึ่ง โดยได้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรค กำหนดเป้าหมาย วิสัยทัศน์การทำงานต่างๆ และเลือกให้ผมทำหน้าที่หัวหน้าพรรคเพื่อเดินหน้างานด้านการเมืองต่อไป
นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นพรรคที่ได้รวบรวมกลุ่มคนทำงาน ที่มีความรู้ความสามารถ ทั้งคนที่มีประสบการณ์ในการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนมาแล้ว ผู้ที่เคยเป็น ส.ส. และคนรุ่นใหม่ที่มีความตั้งใจจะเข้ามาทำงานในฐานะนักการเมือง เพื่อขับเคลื่อนประเทศชาติตามวิสัยทัศน์หลักของพรรค คือการสร้างความเป็นธรรม และลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย เพื่อให้ประชาชนทุกคนมีโอกาสในการดำรงชีวิตในทุกมิติอย่างเท่าเทียมกัน โดยพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นพรรคการเมืองที่มุ่งเรื่องของการทำงานมากกว่าการเล่นการเมือง ซึ่งผมได้บอกกับทุกคนว่า อยากให้มองเห็นเรื่องของการทำงานเพื่อประเทศชาติประชาชนเป็นสำคัญ เพราะผลงานที่ทุกคนทำจะทำให้ได้รับการยอมรับจากประชาชนอย่างแท้จริง
“นโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติ เน้นที่เรื่องของการทำงานแบบสู้ทุกปัญหา ประชาชนสามารถพึ่งพาได้ทุกเรื่อง เพื่อที่จะทำให้ทุกคนมีความเท่าเทียมกันในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรามุ่งมั่นที่จะเข้ามาแก้ไขในเรื่องของการแก้ไขกฎหมายต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของภาคส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ด้านสังคม ชีวิตความเป็นอยู่ หรือเศรษฐกิจ ด้วยพื้นฐานจากการที่ผมเคยทำงานด้านกฎหมาย ทั้งในฐานะอดีตผู้พิพากษา ที่ต้องอยู่กับกฎหมายมาตลอดทำให้ผมเห็นว่ามีกฎหมายของไทยจำนวนมากที่ยังไม่เอื้อต่อการทำงานพัฒนาประเทศ บางข้อก็เป็นอุปสรรค หรือยังทำให้เกิดการปิดกั้นโอกาสและเป็นปัญหาขัดแย้งมากมาย ดังนั้นในฐานะของ ส.ส.ที่มีหน้าที่ด้านการออกกฎหมายอยู่แล้ว จึงควรที่จะเข้าไปดูแลเรื่องนี้ และนั่นคือนโยบายแรกที่พรรคเราจะทำ” นายพีระพันธุ์ กล่าว
นายพีระพันธุ์ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาตนได้เคยทำงานมาแล้วทั้งการเป็นผู้พิพากษา รัฐมนตรี และ ส.ส. ซึ่งถือว่าครบทั้งในส่วนของตุลาการ บริหาร และนิติบัญญัติ ทำให้เข้าใจปัญหาและอุปสรรคต่างๆ และตั้งใจที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหา ขจัดเงื่อนไขในข้อกฎหมายต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานพัฒนาประเทศ ซึ่งยังเห็นว่ามีอยู่มาก โดยเฉพาะความไม่ละเอียดในเนื้อหาของกฎหมาย หรือความไม่ชัดเจน รวมไปถึงเงื่อนไขที่อาจจะทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำไม่เป็นธรรมในสังคมได้ กฎหมายเหมือนกติกาสังคม แต่สังคมไม่ได้เป็นคนเขียน กลายเป็นว่าที่เขียนกฎหมายมาเพื่อให้ทำงานง่าย ไม่ได้เขียนมาในมุมมองว่าประชาชนได้ประโยชน์แค่ไหน ทำให้หลายครั้งกฎหมายมาสร้างความทุกข์ให้กับประชาชน ถ้ากฎหมายล้าสมัย ไม่เป็นประโยชน์กับประชาชน บ้านเมืองก็อยู่ไม่ได้ ดังนั้นเป้าหมายและวิสัยทัศน์ของพรรครวมไทยสร้างชาติ จะมุ่งเรื่องการทำงานด้านนี้เป็นอันดับแรก เพราะเชื่อว่ากฎหมายจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการทำงานเพื่อบ้านเมืองได้ หากกฎหมายชัดเจน และไม่เป็นอุปสรรค ประเทศชาติก็จะเดินหน้าไปได้โดยไม่ติดขัด กฎหมายสามารถทำให้สังคมดีขึ้นได้
“กฎหมายบางประการก็ส่งผลถึงเรื่องความเหลื่อมล้ำ ไม่เท่าเทียมกันในสังคม ยกตัวอย่างเช่น ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ หรือกฎหมายทางธุรกิจ ที่ผมเห็นว่ากฎหมายบางตัวกลับเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก แต่กลับไปเอื้อให้กับกลุ่มทุนขนาดใหญ่ ยิ่งใหญ่ยิ่งสะดวกในการทำธุรกิจ ในขณะที่ธุรกิจเล็กๆ จำนวนมาก ซึ่งถือว่าเป็นฐานเศรษฐกิจสำคัญของประเทศต้องพบอุปสรรคมากมาย ทั้งเรื่องของข้อกำหนดเรื่องเงินกู้ ดอกเบี้ย หรือกฎหมายสัญญาต่างๆ ที่เป็นกรอบให้พวกเขาไม่สามารถเติบโตได้ หากเราแก้ปัญหาตรงนี้ได้ ผมเชื่อว่าเศรษฐกิจของไทยจะเติบโตได้มากยิ่งขึ้น และยังจะส่งผลไปถึงกลุ่มคนตัวเล็กตัวน้อย ที่เป็นรากฐานสำคัญของประเทศให้มีโอกาสในการทำมาหากินและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย” นายพีระพันธุ์ กล่าว
นายพีระพันธุ์ ยังกล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นพรรคสำรองให้กับ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า ไม่สนใจว่าใครจะพูดอย่างไร เพราะแต่ละคนก็มีชุดความคิดของตัวเองที่แตกต่างกันไปอยู่แล้ว ไม่สามารถห้ามความคิดของใครได้ และไม่จำเป็นที่จะต้องไปปฏิเสธว่าจริงหรือไม่จริง เพราะสุดท้ายความจริงก็จะปรากฏเอง แต่ความตั้งใจของการตั้งพรรคไม่ได้วางไว้ว่าจะมาเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านหรือมาสนับสนุนใคร เพราะสิ่งที่มองไว้คือการทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนเป็นหลักเท่านั้น คือต้องการทำให้สังคมดีขึ้นกว่านี้ โดยไม่มองว่าจะต้องมีตำแหน่งอะไร เพราะเชื่อว่าหากทุกคนตั้งใจมาทำงานเพื่อประชาชนแล้ว ถึงไม่มีตำแหน่งอะไรก็สามารถทำงานได้เช่นกัน
เรื่อง : ณัฐนนท์ เจริญชัย
ภาพ : ธนาภรณ์ วุฒิสนธิ์