CRIME

อธิบดีดีเอสไอ เผย ยื่น 4 ประเด็นสอบคดี “บิลลี่” ให้อัยการสูงสุดแล้ว วันนี้

ด้าน มึนอ ขอให้อัยการสูงสูดตัดสินคดีด้วยความยุติธรรม

วันนี้ (18 ม.ค. 65) นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม พานางพิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ มึนอ ภรรยานายพอละจี หรือบิลลี่ รักจงเจริญ แกนนำชุมชนกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เข้าพบ นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองบริหารคดีพิเศษ เพื่อติดตามความคืบหน้าและขอบคุณดีเอสไอ ที่ดำเนินการตามกฎหมาย กรณีการหายตัวไปของบิลลี่ จนทราบตัวผู้กระทำความผิดและส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดเพื่อสั่งพิจารณาสั่งฟ้อง

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า หลังอัยการรับเรื่องพิจารณา มีความเห็นว่า ข้อมูลการฆาตกรรมยังมีไม่เพียงพอและสั่งฟ้องเพียงข้อหา ม.157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทางดีเอสไอก็มีความเห็นแย้งไปว่าพยานหลักฐานครบถ้วนแล้ว กระทั่งล่าสุด ในเดือนกันยายน 2564 อัยการส่งเรื่องให้ดีเอสไอสืบสวนเพิ่มอีก 4 ประเด็น ขณะนี้ทราบว่าดำเนินการสืบสวนสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว จึงเดินทางมาติดตามความคืบหน้าและขอบคุณดีเอสไอ

นางพิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ มึนอ กล่าวว่า ฝากถึงอัยการสูงสุดให้ตัดสินคดีนี้อย่างยุติธรรม และขอให้ทุกฝ่ายดำเนินการเรื่องนี้โดยเร็วที่สุดและขอขอบคุณนายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ที่ยังช่วยตามเรื่องบิลลี่ให้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2564 จนถึงปัจจุบัน

ด้านนายไตรยฤทธิ์ เผยว่า ดีเอสไอได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามคำสั่งของอัยการที่ขอให้สอบเพิ่มเติม และส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดแล้วในวันนี้ โดยมีการสอบพยานเพิ่มเติม 7 ปาก ใน 4 ประเด็น ซึ่งดีเอสไอให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด และยังคอยคุ้มครองดูแลนางพิณนภา หรือ มึนอ เพราะถือเป็นบุคคลสำคัญในคดี โดย 4 ประเด็นประกอบด้วย พยานเทคนิคที่รวบรวมพยานหลักฐาน , ตรวจสอบวัตถุพยานเพิ่มเติม , เครือญาติผู้สูญหาย และเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการตรวจพิสูจน์หลักฐาน แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat