ครั้งแรกของโลก หญิงชาวญี่ปุ่นป่วยโควิด-19 ได้รับการปลูกถ่ายปอด คนละข้างจากสามี-ลูกชายที่ยังมีชีวิต
โตเกียว – เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเกียวโตของญี่ปุ่น ได้เปิดเผยถึงเคสการปลูกถ่ายปอดจากผู้บริจาคที่ยังมีชีวิตให้กับผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่ปอดทั้งสองข้างสูญเสียการทำงานได้เป็นครั้งแรกของโลก
โรงพยาบาลฯ ระบุว่าผู้ป่วยหญิงรายนี้อาศัยอยู่ทางตะวันตกของญี่ปุ่น และกำลังอยู่ระหว่างรักษาตัวในแผนกผู้ป่วยหนัก ขณะที่สามีและลูกชายของเธอ ซึ่งเป็นผู้เสียสละปอดคนละข้าง อยู่ในอาการคงที่หลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายปอดที่กินเวลานานถึง 11 ชั่วโมง โดยคาดการณ์ว่าผู้ป่วยจะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ในอีก 2 เดือนข้างหน้า หากทุกอย่างราบรื่น
ผู้ป่วยหญิงรายนี้ไม่เคยมีประวัติเป็นโรคมาก่อน แต่ระบบทางเดินหายใจของเธอทำงานแย่ลงอย่างรวดเร็ว หลังตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ก่อนจะประสบภาวะปอดอักเสบจนทำให้ปอดทั้งสองข้างแข็งตัวและหดตัวจนแทบไม่สามารถใช้งานได้ ต่อมาเธอเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลฯ เมื่อวันจันทร์ (5 เม.ย. 64) โดยใส่เครื่องช่วยพยุงการทำงานของหัวใจและปอดหรือเอคโม (ECMO) ก่อนเข้ารับการปลูกถ่ายปอดในวันพุธ (7 เม.ย. 64)
ปกติแล้วญี่ปุ่นมีข้อจำกัดปลูกถ่ายปอดให้ผู้ป่วย ซึ่งขึ้นอยู่กับอายุและสภาพร่างกาย โดยการผ่าตัดจะจำกัดเฉพาะผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัวในกรณีที่ได้รับความเสียหายจากโรคโควิด-19
อย่างไรก็ดี ศาสตราจารย์ฮิโรชิ ดาเตะ ศัลยแพทย์ทรวงอก ผู้รับผิดชอบการผ่าตัด กล่าวว่า “ผมคิดว่าการรักษาครั้งนี้เป็นความหวังสำคัญสำหรับการสร้างทางเลือกใหม่ในการรักษาผู้ป่วย”
ที่มา: สำนักข่าวซินหัว
