ครม.เห็นชอบแผนการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างพื้นฐาน (แม่น้ำปิง และแม่น้ำกก) ระยะเร่งด่วน วงเงิน 213 ล้านบาท
คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อคราวประชุมวันที่ 11 มี.ค. 68 เห็นชอบแผนแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างพื้นฐาน (แม่น้ำปิง และแม่น้ำกก) ระยะเร่งด่วน ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงราย วงเงินรวม 213 ล้านบาท (ค่างานโยธา 193.6 ล้านบาท และค่าเผื่อเหลือเผื่อขาด 19.4 ล้านบาท) และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานสำนักงานงบประมาณเพื่อขอรับเงินจัดสรรงบประมาณไปดำเนินการตามแผนและกรอบระยะเวลาที่กำหนด ตามที่กระทรวงคมนาคม (คค.) เสนอ
โครงการนี้ สืบเนื่องจาก ในคราวประชุมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัยและดินโคลนถล่ม (ศปช.) เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย) เป็นประธานการประชุมที่ประชุมมีมติรับหลักการแผนการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างพื้นฐาน ระยะเร่งด่วน ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงรายตามที่คณะทำงานศึกษาวางแผนการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและดินโคลนถล่ม ในพื้นที่ภาคเหนือเสนอ โดยมีพื้นที่เป้าหมาย คือ ลำน้ำปิง จังหวัดเชียงใหม่ ลำน้ำกกและลำน้ำสาย จังหวัดเชียงราย ซึ่งได้กำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างพื้นฐาน ระยะเร่งด่วน โดยการขุดลอกลำน้ำที่มีตะกอนทับถมและขยายหน้าตัด รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างหรือสิ่งกีดขวางที่ขวางการไหลของน้ำมีรายละเอียดแผนการดำเนินงาน ดังนี้
1.แผนการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างพื้นฐาน (แม่น้ำปิง) ระยะเร่งด่วน ประกอบด้วย โครงการขุดลอกและบำรุงรักษาร่องแม่น้ำปิง ปริมาณ 1.752 ล้านลูกบาศก์เมตร วงเงิน 157.6 ล้านบาท และโครงการรื้อฝายเก่า จำนวน 3 แห่ง (ฝายพญาคำ ฝายหนองผึ้ง และฝายท่าวังตาล) วงเงิน 13.8 ล้านบาท
2.แผนการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างพื้นฐาน (แม่น้ำกก) ระยะเร่งด่วน ประกอบด้วย โครงการขุดลอกและบำรุงรักษาร่องน้ำแม่น้ำกก ปริมาณ 337,812.5 ลูกบาศก์เมตร วงเงิน 22.2 ล้านบาท
3.มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแผนการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างพื้นฐาน (แม่น้ำปิง และแม่น้ำกก) ระยะเร่งด่วน โดยแต่ละโครงการจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2568 เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือกับฤดูฝนปีหน้า ดังนี้
3.1) มอบหมายให้กรมเจ้าท่า (คค.) ทำหน้าที่ด้านวิศวกรรมและการตรวจสอบ
3.2) มอบหมายให้หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย กระทรวงกลาโหม (กห.) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบในการขุดลอก เนื่องจากมีความพร้อมด้านกำลังพล เครื่องมือ เครื่องจักร และอุปกรณ์ในการปฏิบัติงาน
3.3) มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) อำนวยความสะดวก บริหารจัดการมวลชน และจัดหาพื้นที่ทิ้งดินจากการขุดลอก