กต. เตรียมขยายผลหลังคัดกรองเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ร่วมกัน 3 ประเทศ
ย้ำ ยังคงมาตรการตัดไฟชายแดน พร้อมขยายผลทลายรังจุดอื่น เร่งประสานดูแลเหยื่อรอส่งกลับ
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาคอลเซ็นเตอร์ และการหลอกลวงทางออนไลน์ หลังได้หารือ 3 ฝ่ายไตรภาคี ร่วมกับ หลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะจีน และ อ่อง จ่อ จ่อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเมียนมาว่า การแก้ไขปัญหาต้องอาศัยความร่วมมือจากประเทศต่าง ๆ ยืนยันว่า การปราบคอลเซ็นเตอร์ครั้งนี้ หากไม่จบ ก็จะไม่เลิก โดยที่ประชุมเน้นไปที่ 2 ประเด็นหลัก คือ การปราบปราม และการส่งเหยื่อกลับประเทศต้นทาง
นายมาริษ ย้ำว่า ไทยยังคงมาตรการตัดไฟ ตัดน้ำมัน ตัดอินเทอร์เน็ตบริเวณชายแดนไทย-เมียนมาต่อไป ที่ประชุมได้เห็นชอบให้ยกระดับความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลจากการคัดกรองเหยื่อ เพื่อขยายผลการดำเนินการปราบปรามอาชญากรรม ผ่านกลไกการประสานงานระหว่างกัน 3 ประเทศ ซึ่งหลังจากนี้ ะมีการใช้โมเดลนี้ขยายผลไปยังจุดอื่น ๆ ที่มีปัญหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์
สำหรับการส่งตัวเหยื่อกลับประเทศต้นทาง แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่เป็นชาวจีนซึ่งเป็นส่วนใหญ่ ให้ดำเนินการทันทีเพราะมีแนวปฏิบัติที่ชัดเจนอยู่แล้วและทางการจีนมีความพร้อม และกลุ่มสัญชาติอื่น ๆ ที่จะต้องพิสูจน์สัญชาติ โดยฝ่ายเมียนมาเห็นชอบให้เจ้าหน้าที่สถานทูต หรือสถานกงสุล เข้าพิสูจน์สัญชาติที่เมืองเมียวดีได้
ส่วนคนที่ถูกส่งข้ามมาฝั่งไทยก่อนหน้านี้ และยังอยู่ระหว่างการประสานงานให้มีการส่งกลับประเทศต้นทาง ฝ่ายไทยได้หารือกับองค์การระหว่างประเทศ เพื่อพิจารณาหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป รวมถึงที่ประชุมได้รับทราบถึงปัญหาเกี่ยวกับการดูแลผู้ตกเป็นเหยื่อที่รอการส่งกลับประเทศต้นทางจำนวนมากในฝั่งเมียวดี และหารือกันเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มบุคคลดังกล่าวด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม