กรมควบคุมโรค เผย พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่กว่า 1.3 แสนร้ายระหว่าง ม.ค.-ก.พ. 68 เสียชีวิต 12 ราย
วันนี้ (25 กุมภาพันธ์ 2568) นายแพทย์ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 24 กุมภาพันธ์ 2568 พบผู้ป่วยสะสม 131,826 ราย และผู้เสียชีวิตสะสม 12 ราย กลุ่มอายุที่พบมากที่สุดคือเด็กอายุ 5 – 9 ปี รองลงมาคือเด็กอายุ 0 – 4 ปี และกลุ่มอายุ 10 – 14 ปี ตามลำดับ ภาคที่มีอัตราป่วยสูงสุดต่อประชากรแสนคนคือ ภาคเหนือ (258.44) รองลงมา ภาคกลาง (222.48) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (175.88) และภาคใต้ (138.85) โดยจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 10 จังหวัดแรก ได้แก่ พะเยา (638.55) ลำพูน (591.61) เชียงราย (469.88) ภูเก็ต (456.36) เชียงใหม่ (443.04) ลำปาง (374.70) น่าน (341.83) กรุงเทพมหานคร (331.85) อุบลราชธานี (301.93) และนนทบุรี (290.59) แนวโน้มผู้ป่วยรายสัปดาห์ในปีนี้สูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2567) ในช่วงเวลาเดียวกันประมาณ 1.6 เท่า และสูงกว่าค่ามัธยฐานย้อนหลัง 5 ปี โดยในปี 2567 พบผู้ติดเชื้อทั้งปีรวม 668,027 ราย เสียชีวิต 51 ราย และสายพันธุ์ที่ตรวจพบมากที่สุดคือ AH1N1 (2009)
นายแพทย์ภาณุมาศ กล่าวต่อว่า ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงหากป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนและมีอาการรุนแรงจนทำให้เสียชีวิต เช่น ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ผู้มีโรคประจำตัว ผู้ที่เป็นโรคอ้วน และหญิงมีครรภ์ ควรได้รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เพื่อลดความรุนแรงและการเสียชีวิต นอกจากนี้ยังควรดูแลสุขภาพ รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล เช่น การสวมหน้ากากอนามัยเมื่อเข้าไปในสถานที่ที่มีคนรวมตัวกันจำนวนมาก ล้างมือด้วยน้ำสะอาดและสบู่ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ และหากมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ ควรหยุดพักรักษาตัวอยู่บ้าน 3 – 7 วัน หรือจนกว่าจะหายเป็นปกติ เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อ หากอาการไม่ดีขึ้น เช่น หอบเหนื่อย หรือซึมลง ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว
ส่วนการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เพื่อลดอาการรุนแรงจากโรคเน้นในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 2. ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป 3. ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ 4. ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ได้แก่ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด โรคหัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน 5. ผู้ที่เป็นโรคธาลัสซีเมียและผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง 6. ผู้ที่ป่วยเป็นโรคอ้วน 7. หญิงตั้งครรภ์ที่อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป
