‘พิชัย’ ลุยสหรัฐ ถก USCC-USABC พบภาคเอกชนยักษ์ใหญ่กว่า 26 บริษัท

‘พิชัย’ ลุยสหรัฐ ถก USCC-USABC พบภาคเอกชนยักษ์ใหญ่กว่า 26 บริษัท ชูจุดแข็ง FTA -ความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ดึงดูดลงทุนอุตสาหกรรมใหม่
วันนี้ (8 ก.พ. 68) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังหารือกับภาคเอกชนชั้นนำของสหรัฐฯ ประกอบด้วย คณะนักธุรกิจจากสภาหอการค้าสหรัฐฯ (USCC) และสภาธุรกิจสหรัฐฯ–อาเซียน (USABC) ณ สำนักงาน U.S. Chamber of Commerce กรุงวอชิงตัน ดีซี สหรัฐอเมริกา เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ เช่น Google, Microsoft และ Amazon เข้ามาลงทุนในไทยแล้ว
นายพิชัย กล่าวว่า ในการหารือมีภาคเอกชนกว่า 26 บริษัทมาพบ ทุกคนต่างสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย และมีความต้องการขยายการลงทุนกับไทย เพราะไทยเป็นหุ้นส่วนที่ดี กระทรวงพาณิชย์ได้เชิญชวนเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น โดยอาศัยข้อได้เปรียบของไทย จากข้อตกลง Treaty of Amity ที่ให้สิทธิพิเศษแก่ธุรกิจสหรัฐฯ สามารถถือหุ้น 100% ในไทย ซึ่งเป็นสิทธิที่ไทยไม่เคยมีให้กับประเทศอื่น
ทั้งนี้ ภาคเอกชนของสหรัฐฯ ยินดีที่ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการทำ FTA กับเอฟตา และไทยยังมีแผนที่จะทำ FTA กับอีกหลายประเทศ เช่น เกาหลีใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหราชอาณาจักร โดยเฉพาะกับอียู ที่มีสมาชิกอีกกว่า 27 ประเทศ โดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เร่งรัดให้สำเร็จภายในปีนี้ เชื่อว่าภาคเอกชนสหรัฐฯ จะเข้ามาลงทุนมากขึ้น
นายพิชัย ยังเน้นย้ำถึงโอกาสทางเศรษฐกิจของไทยที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2567 ประเทศไทยมีการขอรับการส่งเสริมการลงทุนปี 2567 มูลค่ากว่า 1.13 ล้านล้านบาท สูงสุดในรอบ 10 ปี การส่งออกปี 2567 โตถึง 5.4% พร้อมชูความพร้อมของไทยในการเป็นศูนย์กลาง Data Center, AI และอุตสาหกรรมอาหาร
ทั้งนี้ มุมมองของภาคเอกชนสหรัฐฯ ต่อไทยยังคงเป็นบวก โดยเห็นว่าไทยเป็นพันธมิตรที่สำคัญ และเป็นฐานการผลิตที่ดีในภูมิภาคดังนั้น จึงเชิญชวนบริษัทสหรัฐฯ เข้ามาลงทุนเพิ่มเติมในอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น เวชภัณฑ์ พลังงาน ดิจิทัล และเกษตรอาหาร ซึ่งกระทรวงพาณิชย์พร้อมให้การสนับสนุนด้านนโยบายและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เต็มที่ในการเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับสหรัฐฯ
ปี 2567 สหรัฐฯ เป็นคู่ค้าอันดับ 2 ของไทย (รองจากจีน) ซึ่งมีมูลค่าการค้ารวม 74,484.81 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปยังสหรัฐฯ เป็นมูลค่า 54,956.21 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีสินค้าส่งออกสำคัญ เช่น คอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์ยางอัญมณี รถยนต์ และเครื่องปรับอากาศ และไทยนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เป็นมูลค่า 19,528.61 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีสินค้านำเข้าสำคัญ เช่น น้ำมันดิบ เครื่องจักรกล และเคมีภัณฑ์