CRIME

ผบ.ตร. ชี้ เดินหน้าล้มเสาสัญญาณ ตัดเส้นเลือดของแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ผบ.ตร.เผย ยังไม่พบประเทศเพื่อนบ้านใช้ไฟจากทางการไทย ชี้ เดินหน้าล้มเสาสัญญาณ ตัดเส้นเลือดของแก๊งคอลเซ็นเตอร์

วันนี้ (29 ม.ค. 68) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตของประเทศเพื่อนบ้านที่อาจถูกนำไปใช้สำหรับการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี ว่า เรื่องการตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ได้มีการประสานทาง กสทช. และจากการตรวจสอบ โดยกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพบว่า สิ่งที่เกี่ยวข้องและองค์ประกอบบุคคล เส้นทางการเงิน และเสาสัญญาณ ขณะนี้เรามีข้อมูล และมีการประสานกับประเทศกัมพูชา ประเทศเมียนมา และประเทศลาว โดยมีจเรตำรวจแห่งชาติเป็นผู้เดินทางไปพูดคุยกับประเทศเหล่านี้ทั้งหมดแล้ว

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ตอนนี้ไทยมีความพยายามที่จะนำผู้ที่มีหมายจับกลับมาดำเนินคดีส่วนเรื่องเส้นทางการเงินได้มีการประสานงานกับธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อทำการระงับยับยั้งการเงินที่ผิดปกติ ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยได้ให้ความร่วมมือดีมากและอยู่ระหว่างให้แต่ละองค์กร หน่วยงานขับเคลื่อนเดินหน้าในหน้าที่ของตนเอง ส่วนเรื่องเสาสัญญาณพบว่ามีเสาสัญญาณที่น่าจะเชื่อว่า เป็นการให้สัญญาณ กับทางฝั่งประเทศเพื่อนบ้านแต่ได้มีการประสานงานยกเลิกพร้อมล้มเสา และหันกลับมาให้คนไทยใช้งานในหลายจุด ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการต่อไป เพื่อเป็นการตัดเส้นเลือดในเรื่องของการใช้งานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ส่วนเรื่องไฟฟ้าการลักลอบใช้ไฟของประเทศไทยนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เบื้องต้นเป็นเรื่องของการใช้เครื่องปั่นไฟ แต่การใช้ไฟของราชการไทยนั้นขณะนี้ยังไม่พบข้อมูล ทั้งยังดูในเรื่องของเป็นต้นทางว่าใคร มาจากไหนข้ามประเทศไทยเป็นทางผ่าน และมีการกำหนดห้วงเวลา 7 ช่วงและมาตรการอย่างชัดเจนให้หน่วยปฏิบัติทั้งหมดดำเนินกาน ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจและพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้คนถูกหลอกไปทำงาน และถูกบังคับไปใช้งาน ซึ่งจะโยงไปกับเรื่องการค้ามนุษย์ และเมื่อเราตัดต้นทางได้ปลายทางก็จะไม่เกิดและในวันนี้นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวอีกว่า ในส่วนของเรื่องการคัดกรองสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ร่วมพิจารณา ใช้ ตม. 6 ออนไลน์คือการกรองข้อมูลของผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศแต่อาจมีการแออัดที่ช่องผ่านตรวจคนเข้าเมือง จึงได้ทำเรื่องแบบออนไลน์ ซึ่งมีลักษณะเหมือนการที่เดินทางเข้าไปในต่างประเทศอื่น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาน่าจะเกิดเร็วที่สุด และมีการจัดทำข้อมูล โดยมอบให้กับ บก.สืบสวน สตม. เป็นผู้รับผิดชอบถึงแม้ว่าในขณะนี้ประเทศไทยเน้นในเรื่องการท่องเที่ยวและมีการฟรีวีซ่า แต่การตรวจคนเข้าเมืองจะวิเคราะห์ข้อมูลที่อยู่ในคลังข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองว่า มีใครเข้ามาผิดปกติ และอยู่นานเกินไปหรือไม่ พร้อมตรวจสอบความถี่ในการเดินทางเพื่อใช้ในการคัดแยกและติดตาม

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวทิ้งท้าย ได้ทำการประสานกับสถานทูต ของประเทศนั้นๆให้ประชาสัมพันธ์ ว่าการเดินทางเข้ามาในประเทศไทยหากได้รับการชักชวนต้องระงับยับยั้งให้รู้ด้วยเพื่อไม่ให้บุคคลเหล่านี้เข้ามาแบบผิดกฎหมายและทำเรื่องผิดกฎหมาย หรือถูกหลอกลวงเข้ามาและหากสกัดได้ก็จะไม่มีคำว่าประเทศไทยเป็นทางผ่านอีกต่อไป ตอนนี้ตำรวจกำลังพยายามทำเรื่องดังกล่าวอยู่

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat