‘เฉลิมชัย’ หนุนความร่วมมือพัฒนาเทคโนโลยีป้องกันประเทศและดูแลทรัพยากรธรรมชาติ
‘เฉลิมชัย’ สนับสนุนความร่วมมือพัฒนาเทคโนโลยีป้องกันประเทศและดูแลทรัพยากรธรรมชาติ พร้อมเปิดประชุมเดินหน้าแก้ไขปัญหาประชาชนที่อยู่อาศัยในเขตป่าอนุรักษ์
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) พร้อมด้วย พลเอก พอพล มณีรินทร์ ประธานกรรมการสถาบันเทคโนโลยี นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาอุตสาหกรรมความมั่นคงของประเทศ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีป้องกันประเทศและการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ระหว่างกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) กระทรวงกลาโหม
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงนามความร่วมมือร่วมกับ พลเอก ดร.ชรัติ อุ่มสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ เพื่อยกระดับการพัฒนาเทคโนโลยีป้องกันประเทศ สำหรับช่วยเสริมสร้างสมรรถนะและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการปกป้องและดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ โดยอาศัยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย ส่งเสริม สนับสนุน และประสานความร่วมมือในการพัฒนาอุตสาหกรรมความมั่นคงของประเทศ ตลอดจนการถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างบุคลากรของทั้งสองหน่วยงาน เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ
จากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุมการแก้ไขปัญหาและบริหารจัดการที่อยู่อาศัยและทำกินของประชาชนในเขตป่าอนุรักษ์อย่างยั่งยืน โดยมีผู้บริหารระดับสูง ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ทั้ง 16 แห่งและสาขา หัวหน้าป่าอนุรักษ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมกว่า 590 คน พร้อมกล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการสร้างความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม โดยล่าสุดคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบพระราชกฤษฎีกาโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติในเขตป่าอนุรักษ์ทั้ง 3 ประเภท เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 พร้อมกำหนดระเบียบและแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน โดยสาระสำคัญของการดำเนินงานครอบคลุมหลายด้าน ได้แก่ การตรวจสอบคุณสมบัติผู้อยู่อาศัย การพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน แนวทางการเก็บเกี่ยวผลผลิตและการตัดไม้ยืนต้นที่ปลูกเอง การจัดการบริการเชิงนิเวศ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน การประชุมครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการแก้ปัญหาที่ดินในเขตป่าอนุรักษ์อย่างเป็นระบบ สร้างความเข้าใจร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทุกระดับ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน