’พลังประชารัฐ’ ซัดรัฐบาลเหมือนเด็กเลี้ยงแกะ หลังไร้รี่แววส่ง 4 ลูกเรือประมงกลับไทย

’พลังประชารัฐ’ แถลง ซัดรัฐบาลเหมือนเด็กเลี้ยงแกะ หลังไร้รี่แววส่ง 4 ลูกเรือประมงกลับไทย
วันนี้ (8 ม.ค. 68) นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ สส.พังงา พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นำทีม สส.พรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวกรณีการช่วยเหลือ 4 ลูกเรือประมงไทยที่ถูกตัดสินจำคุกที่เมียนมาว่า พรรคพลังประชารัฐมีความกังวล และเป็นห่วงประชาชนชาวพังงา 4 คนที่ถูกดำเนินคดีโดยเมียนมา ในข้อหารุกล้ำน่านน้ำ ทั้งนี้จากการติดตามข่าว ฝ่ายรัฐบาลบอกว่าได้ประสานทางการเมียนมา ให้ดูแลพี่น้องคนไทยทั้ง 4 คน คาดว่าจะมีการปล่อยตัวในวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่ข้อเท็จจริงกลับไม่ได้รับการปล่อยตัวหรืออภัยโทษ
ที่ผ่านมารัฐบาลไม่เคยพูดชัดเจนว่า ลูกเรือประมงไทยอยู่ในพื้นที่ทับซ้อนหรือรุกล้ำน่านน้ำเมียนมา พรรึพลังประชารัฐจึงมีความเป็นห่วง ขอเรียกร้องให้รัฐบาลมีความจริงใจชัดเจนในการแก้ปัญหาว่า ตกลงแล้วข้อเท็จจริงลูกเรือได้ล้ำน่านน้ำของเมียนมาหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาเรือทุกลำของไทยที่ทำการประมง มีการติด GPS ฉะนั้นรัฐบาลน่าจะรู้ว่าเรารุกล้ำน่านน้ำหรือไม่
จากที่ดูตามสื่อมวลชน ศาลเมียนมาตัดสินดำเนินคดีจำคุกคนละ 6 ปี และ 4 ปี แต่รัฐบาลกลับบอกให้ใจเย็น ๆ ไม่ให้ไปสร้างกระแสข่าวกดดันเมียนมา เนื่องจากกลัวว่าเขาจะไม่ปล่อยตัวมา บัดนี้เวลาล่วงเลยมากว่า 40 วัน คนไทยยังไม่ได้รับการปล่อยตัว
มล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี กรรมการบริหาร พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การที่เรือรบเมียนมายิงเรือประมงไทย บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ทิศตะวันตกของเกาะพยาม สิ่งที่เกิดขึ้นเนื่องจากการแบ่งปันเขตแดนไทย-เมียนมา บริเวณไหล่ทวีปได้จบลงแล้ว แต่จุดที่มีปัญหาคือ การปักปันพื้นที่หมู่เกาะต่าง ๆ โดยไม่ได้พูดถึงหมู่เกาะขนาดเล็กให้ครบถ้วน จากแผนที่จะพบว่า พื้นที่ทับซ้อนอยู่ห่างกัน ดังนั้นการยิงเพื่อประสงค์เอาชีวิต จึงเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ รัฐบาลจะต้องประท้วง ล้ำ หรือไม่ล้ำ รัฐบาลควรจะรู้ เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยประกาศจุดที่มีการยิงกันชัดเจน
บริเวณดังกล่าวเป็นจุดก้ำกึ่ง การยิงกัน จึงเป็นการกระทำที่เกินสมควรเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามฝ่ายไทยยึดถือตามพระราชหัตถเลขาของรัชกาลที่ 5 เกาะหลาม และเกาะคันเป็นของไทย เกาะพยามหากอยู่ในรัศมี 12 ไมล์ทะเลก็ยังเป็นของไทยอยู่
มล.กรกสิวัฒน์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลไทยไม่ได้ปกป้องชีวิตคนไทยตามที่สมควรกระทำ ท่าทีของรัฐบาลอ่อนแอและหย่อนยานเกินไป เราเคยมีบันทึกข้อตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสหภาพเมียนมา ในปี 2523 ระบุว่ากรณีพิพาทจะต้องจัดการด้วยสันติวิธี การยิงกันเพื่อหมายเอาชีวิต เป็นสิ่งที่รัฐบาลจำเป็นต้องประท้วง ไม่ใช่ยอมรับ
ทั้งนี้เรื่องคนต่างด้าวเข้าประเทศไทยืเราไม่เคยทำร้าย แต่กรณีนี้รัฐบาลปล่อยให้เขาดำเนินคดี โดยที่คนไทย 4 คน ไม่ได้พิสูจน์ความจริง ย้ำว่ารัฐบาลต้องเร่งประท้วง และนำคนไทยกลับประเทศโดยเร็วที่สุด
“วันนี้ดูเหมือนทุกอย่างจะพูดไม่ได้ไปหมด พูดแล้วจะเสียนู่นเสียนี่ แต่ชีวิตคนไทยที่สูญเสียไป ถือเป็นการกระทำที่เกินไปของรัฐบาลเมียนมา” มล.กรกสิวัฒน์ กล่าว
นายชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร พรรคพลังประชารัฐ ระบุว่ารัฐบาลเปรียบเสมือนเด็กเลี้ยงแกะ แค่ลูกเรือไทย 4 คน รัฐบาลกลับบอกเพียงว่า อย่าพูดให้รอรับฟังจากรัฐบาล สิ่งที่ได้รับคือความผิดหวัง แม้ 4 คนไทย จะเป็นชนชั้นล่าง หาเช้ากินค่ำ แต่เขาก็เป็นคนไทย รัฐบาลจะต้องแสดงให้เห็นถึงศักดิ์ศรีของประเทศ ต้องดำรงไว้ซึ่งอธิปไตย
ประเทศไทยต้องพูดคุยกับรัฐบาลเมียนมาอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่คุยกันใต้โต๊ะแล้วให้ประชาชนเงียบ รัฐบาลทำให้เห็นว่า ไทยมีความเหลื่อมล้ำอย่างชัดเจน ซึ่งพรรคพลังประชารัฐจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดทั้งในและนอกสภาฯ