สธ. เปิดศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน 4 จังหวัดชายแดนใต้ รับมือวิกฤตน้ำท่วม
สธ. เปิดศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน 4 จังหวัดชายแดนใต้ รับมือวิกฤตน้ำท่วม จัดตั้งศูนย์พักพิงให้ความช่วยเหลือกว่า 2,000 ราย ระดมส่งทีมแพทย์และสาธารณสุขกว่า 500 ทีม ปฏิบัติการภาคสนามกระจายทุกพื้นที่
น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสตูล มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย เสียชีวิต 7 ราย ปัจจุบันเปิดศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (eoc) 4 จังหวัด คือ สงขลา นราธิวาส ปัตตานี และยะลา
สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคเขตที่ 12 (สคร. 12) ร่วมกับ สสจ. สงขลา ประเมินความเสี่ยงศูนย์พักพิงชั่วคราวอำเภอหาดใหญ่ 2 แห่ง เพื่อให้ข้อเสนอแนะในการเตรียมความพร้อมและสำรวจทรัพยากรคงคลังของวัสดุอุปกรณ์เวชภัณฑ์ และเวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยาตามเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนด สนับสนุนการดำเนินงานในพื้นที่ประสบอุทกภัย เฝ้าระวังโรคที่มากับน้ำ ทั้งนี้ มีการเปิดศูนย์พักพิงที่จังหวัดยะลา นราธิวาส สงขลา รวม 47 ศูนย์พักพิง รองรับผู้ประสบภัย 4,500 ราย ผู้รับบริการ 2,217 ราย
ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา บุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข ระดมมาตรการรับมือกับสถานการณ์โดยฉับพลัน เคลื่อนย้ายกลุ่มเปราะบางไปยังศูนย์อพยพหรือโรงพยาบาล ประสานระบบส่งต่อทีมแพทย์ฉุกเฉินทางอากาศ สำรองเตียงในโรงพยาบาลที่ไม่เสี่ยงอุทกภัย รวมทั้งประชาสัมพันธ์และสื่อสารการป้องกันภัยจากอุทกภัยที่สำคัญ ได้แก่ การจมน้ำ ไฟดูด แมลงและสัตว์มีพิษกัดต่อย
น.ส.ตรีชฎา กล่าวว่า ผู้รับผิดชอบได้ดำเนินการส่งทีมด้านการแพทย์และสาธารณสุข ดูแลประชาชนรวม 503 ทีม แบ่งเป็นทีมสอบสวนโรค 191 ทีม ทีมเยียวยาจิตใจ 112 ทีมอนามัยสิ่งแวดล้อม 2 ทีม ทีมการแพทย์ฉุกเฉิน หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ 68 ทีม และกู้ชีพกู้ภัย 130 ทีม ดูแลประชาชนรวม 2,011 คน นอกจากนี้ โรงพยาบาลปัตตานีเปิดโรงครัวสำหรับผู้ป่วย ญาติ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล และญาติที่ไม่สามารถกลับบ้านได้ ขณะที่คณะพยาบาลศาสตร์ มอ.ปัตตานี ส่งอัตรากำลังมาช่วยโรงพยาบาลในการขยายหอผู้ป่วย
ส่วนสถานการณ์จาก รพ.ปัตตานี วันนี้ระดับน้ำรอบ รพ. สูงกว่าเมื่อวานประมาณ 5-10 ซม. ระบบสนับสนุนประปามีน้ำเพียงพอ 48 ชม. และผู้ว่าฯ จะสนับสนุนรถมาเติมกรณีร้องขอ ระบบออกซิเจนเพียงพอ ได้รับสนับสนุนวัตถุดิบ ข้าวสาร ไก่ ไข่ จากแพทยสมาคมฯ และ CPF ส่งวัตถุดิบไข่ 10,000 ฟอง ไก่ 200 ตัว เพื่อทำอาหารให้กับบุคลากร ผู้ป่วย และญาติ และอาจจะเปิดครัวใหญ่ เพื่อทำอาหารกระจายไปยังทุก รพ. ใน 3 จังหวัด