‘ชูศักดิ์’ ไม่เถียง ‘นิกร’ หลังฟันธงกฎหมายประชามติแปลงเป็นกฎหมายการเงินไม่ได้ ชี้ แค่หามุมกฎหมายหาทางออก
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายนิกร จำนง เลขานุการคณะกรรมาธิการร่วมกันเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ยืนยันว่าการจะแปลงร่างกฎหมายประชามติเป็นกฎหมายการเงินไม่สามารถทำได้ เพราะเลยระยะเวลามาแล้วว่า อ่านรัฐธรรมนูญหลายมาตรา ยอมรับว่าขั้นตอนนี้เลยมาแล้วจริง ๆ ตนเองก็ไม่ได้เถียงว่าเลยมาแล้ว แต่ที่ยกประเด็นขึ้นมาหมายความว่าเมื่อมีปัญหา กมธ.ร่วมเห็นไม่ตรงกัน ถือเป็นอุปสรรคของการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่แล้วเสร็จ จึงคิดว่าทางออกควรเป็นอย่างไร
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า การตีความว่าเป็นกฎหมายการเงินหรือไม่ ถือเป็นทางเลือกหนึ่ง ซึ่งตนเองก็ไม่ได้ฟันธง จึงได้บอกว่าต้องมีการหารือกัน ตนเองเคยบอกว่าให้หารือกับประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) และ กมธ.ว่าจะมีทางออกได้หรือไม่ และไม่ได้ฟันธงว่าเป็นไปตามนั้น ซึ่งหากไปไม่ได้ก็ไม่เป็นไร และสิ่งที่นายนิกรพูดมาก็ไม่ได้เถียงอะไร แต่ปัญหาข้อกฎหมายต้องหารือกันว่ามีทางออกอะไรหรือไม่
เมื่อถามว่าหากเรื่องดังกล่าวไม่ใช่กฎหมายการเงินจะมีทางออกให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับแล้วเสร็จในรัฐบาลนี้หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า การลดการทำประชามติจาก 3 ครั้งเหลือ 2 ครั้ง ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องหารือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ว่าถ้าทำประชามติ 3 ครั้ง การแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับก็เสร็จไม่ทันรัฐบาลนี้ แต่ก็จะดันเต็มที่ให้เกิดสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) อย่างน้อยก่อนหมดวาระรัฐบาลชุดนี้ก็จะได้มี สสร. ขณะที่การเลือกตั้งก็ใช้กติการัฐธรรมนูญฉบับเก่าไปก่อน
ทั้งนี้ ถ้าเราเดินไปในแนวทางที่จะมี สสร.เพื่อมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ คิดว่าประเด็นรายมาตราคงไม่มี เพราะเราจะมอบหมายให้ สสร.ยกร่างแล้ว ซึ่งถือเป็นตัวแทนประชาชน หากไปทำรายมาตราอีกก็จะดูไม่สมเหตุสมผล เว้นแต่กรณีจำเป็นจริง ๆ แต่เมื่อดูสถานการณ์ตอนนี้แล้วก็ไม่มีอะไรที่คอขาดบาดตาย