‘ฟิล์ม รัฐภูมิ’ รับ เป็นเจ้าของเสียงในคลิปจริง ยัน ไม่ได้กรรโชกทรัพย์ 20 ล้านบาท จากบอสดิไอคอน
ชี้ เป็นเพียงผู้แนะให้ไปชี้แจงข้อเท็จจริงในรายการ น้อมรับผิดอ้างชื่อ ‘หนุ่มกรรชัย–โหนกระแส’ หวังได้งาน สุดท้ายชวดงานแถมเสียชื่อเสียง
วันนี้ (12 พ.ย. 67) นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายกรรชัย กำเนิดพลอย เปิดเผยคลิปเสียงที่มีศิลปินชาย ร่วมกับนักร้องเรียนสาวรายหนึ่งตบทรัพย์บอสดิไอคอนกรุ๊ป 20 ล้านบาท เพื่อให้ไปฟอกตัวในรายการโหนกระแส โดยนายกรรชัยได้ให้ทนายความไปแจ้งความ พร้อมทั้งนำคลิปทั้งหมดส่งให้ตำรวจสอบสวนกลางแล้ว
นายรัฐภูมิ กล่าวว่า รู้จักนักร้องเรียน ก. มานานแล้ว ตั้งแต่ช่วงนักร้องเรียนทำพรรคการเมือง นักร้องเรียนได้จ้างให้บริษัทของตนเองไปถ่ายรูปโปรโมทพรรคการเมืองให้ กระทั่งเดือน มิ.ย. 67 นักร้องเรียนติดต่อลับมาว่าบริษัทดิไอคอนมีงบประมาณ 20 ล้านบาท เพื่อทำแผนโปรโมทบริษัท โดยได้สอบถามเรื่องแผนธุรกิจของบริษัท ก็มองว่าเป็นธุรกิจที่ดี แค่ออกรายการน่าจะทำให้คนรู้จักบริษัทมากขึ้น ซึ่งบรรดาบอสทั้งหลายก็ไปออกหลายรายการแล้ว แต่ดูเหมือนสะเปะสะปะ จึงนำเสนอแผนไป
สำหรับคลิปเสียงที่มีการเผยแพร่ออกมา เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเดือนตุลาคม 67 บอสปันเดินทางมาหานักร้องเรียนในที่ทำงาน แล้วนักร้องเรียนได้โทรมาหา ซึ่งตัวเองยังไม่รู้จักกับบอสปัน จึงเกิดการประชุมสายเกิดขึ้น โดยสอบถามเรื่องแผนการโปรโมทบริษัทและสินค้า และถามว่าใช้งบประมาณเท่าไหร่ ซึ่งตัวเองรับทราบอยู่แล้วว่าบริษัทมีงบประมาณ 20 ล้านบาท จึงตอบไปว่ามีงบประมาณอยู่ 20 ล้านบาท
นายรัฐภูมิ กล่าวว่า ได้รับข้อมูลจากนักร้องเรียนว่า บริษัทดิไอคอนถูกกลั่นแกล้ง ถูกใส่ร้าย จึงเสนอให้บรรดาบอสของบริษัทเข้าไปชี้แจงตัวเองผ่านรายการทางโทรทัศน์ เช่น โหนกระแส โดยที่ยกตัวอย่างโหนกระแส เพราะเป็นรายการใหญ่ น่าเชื่อถือ และมีผู้ติดตามจำนวนมาก ซึ่งตอนที่แนะนำให้ไปออกรายการทางโทรทัศน์ตนเองไม่รู้ว่าบริษัทมีปัญหาอะไรภายใน ยืนยันว่า ในคลิปเสียงไม่ได้ทำการขู่เรียกเงิน หรือตบทรัพย์ เป็นเพียงผู้ชี้แนะแนวทางให้ไปชี้แจงข้อเท็จจริงในรายการ ซึ่งคลิปเสียงเกิดขึ้นก่อนจะมีคดีความ ตัวเองก็ไม่ได้มีเจตนาไปช่วยผู้กระทำผิด
อย่างไรก็ตาม เมื่อคืน (11 พ.ย. 67) นายกรรชัย ได้โทรมาหาแล้ว และได้ตำหนิค่อนข้างเยอะ ซึ่งตนเองก็ได้ขอโทษไป และรับฟัง ส่วนที่อ้างชื่อนายกรรชัย เพราะมันส์ปาก ยอมรับว่าอยากได้งาน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้งาน ตัวเองและบริษัทได้รับความเสียหาย ซึ่งที่นายกรรชัยไปแจ้งความดำเนินคดี ก็พร้อมที่เข้าชี้แจงตามกระบวนการของกฏหมาย โดยจะให้ทนายความรวบรวมข้อมูลต่อไป
สำหรับสถานะทางการเมือง ตอนนี้ยังเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐเช่นเดิม หากมีความมีข้อสงสัยก็พร้อมเข้าชี้แจงในทุกเรื่อง โดยไม่กังวลใจว่าจะถูกขับออกจากพรรค เพราะมั่นใจว่าตนเอง ไม่ได้ทำผิดอะไร