‘แซน วิศาพัช’ เล่าย้อนคดี ‘แตงโม’ อ้างถูกทนายคนดังแนะให้คนบนเรือโยนความผิดมาให้ ไม่ตรงตามข้อเท็จจริง ลั่น ขอร่วมจองกฐิน
วันนี้ (28 ต.ค. 67) เวลา 13.45 น. ที่กองบังคับการปราบปราม วิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ ‘แซน’ กล่าวถึงทนายความชื่อดังที่กำลังตกเป็นกระแสในสังคมขณะนี้ โดยอ้างว่า ในวันเกิดเหตุที่ น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ ‘แตงโม’ พลัดตกเรือ ทนายชื่อดังได้ติดต่อหาผ่านทาง นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ ‘ปอ’ หนึ่งในผู้ที่อยู่บนเรือ และบอกว่าอย่าเพิ่งไปพบตำรวจ และนัดเจอพูดคุยกันระหว่าง นายตนุภัทร, นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือ ‘โรเบิร์ต’ และทนาย
แซน กล่าวต่อว่า ทนายคนดังกล่าวมาช้ามาก เนื่องจากทนายมีธุระที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งทำให้กลุ่มคนบนเรือไปหาตำรวจช้า และตกเป็นจำเลยสังคม ตนเองมาทราบในภายหลังว่าทนายคนดังกล่าวแนะนำวิธี และแนวทางสำหรับคดีดังกล่าวว่าจะต้องมีคนผิดในเรื่องนี้ ซึ่งไม่อิงตามข้อเท็จจริง แต่กลับชี้นำว่าต้องโยนไปให้คนใดคนหนึ่ง คนนั้นก็คือตนเองที่อยู่ท้ายเรือ นายตนุภัทร และนายไพบูลย์จึงตัดสินใจไม่ให้ทนายคนดังกล่าวทำคดีนี้ เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอแนะ
ต่อมาเมื่อทนายกลับไปหลังจากที่คุยกัน ได้โพสเฟซบุ๊กว่า “ไม่รับทำคดีให้คนบนเรือ” แต่ข้อเท็จจริงคือคนบนเรือไม่ได้ให้ทนายคนดังกล่าวทำคดี และทนายได้ไปทำคดีให้กับคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามคนบนเรือทั้งหมด และยังพูดให้ประชาชนคอยติดตามในเรื่องที่ทนายแต่งขึ้นมา เพื่อกระแสสังคมจะได้เอนเอียงไปทางทนายเพื่อผลประโยชน์ พวกของตนเองมีข้อมูลหลักฐานขณะทนายพูดคุยเสนอแนะวิธีดังกล่าว และก็เคยให้การเรื่องนี้กับตำรวจไปแล้ว ซึ่งอยู่ในสำนวนคดีทั้งหมด
”เป็นทนายควรต้องทำคดีไปตามหลักหลักฐานข้อเท็จจริง ไม่ใช่ทำแบบนี้ง่ายกว่า จบง่ายกว่า มีทนายแบบนี้ด้วยหรือ“ แซน กล่าว
อย่างไรก็ตาม วานนี้ (27 ต.ค.) แซนได้โพสต์ไอจีสตอรี่ระบุว่า “ทนายคนดัง (มาก) บอกว่าเค้าให้โดยเสน่หา..เอิ่ม เอาอะไรมามั่นอ่ะ แค่ที่เค้าให้เดือนละสามแสน กล้ารับก็นับว่าสุด ๆ แล้วนะ คุณคิดว่าศักยภาพคุณถึงราคานั้น?… วันนั้น 25/2/65 ให้พวกเรารอคุณกลับมาจากโคราช จนเกือบค่ำ เลยตกเป็นจำเลยสังคม..วันนี้บางอ้อ.. คุณคงจำเป็นต้องหาเงิน เพื่อมาซื้อของแบรนด์เนมใส่ไปโหนกระแสสินะ“ ก่อนจะตัดสินใจลบไป
เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยกับคนบนเรือหรือไม่ หลังจากมีกระแสข่าวออกมาแบบนี้ วิศาพัช ไม่ได้ตอบคำถาม เพียงแต่กล่าวว่า “ในที่สุดความยุติธรรมก็มีอยู่บนโลกนี้จริง ๆ คนทำดีได้ดี คนทำชั่วจะได้อะไร” คนเราทำอะไรก็ได้รับผลแบบนั้น เพราะหากทนายคนดังกล่าวทำดีก็คงไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรในสิ่งที่เขาถูกกล่าวหา เช่นเดียวกับตนเองถูกกล่าวหา ซึ่งก็ไม่เคยกลัว เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด
ส่วนกรณีที่ทนายความคนดังกล่าว ได้รับเงินมา 71 ล้านบาท วิศาพัช ระบุว่า “พี่ว่าเขาน่าเสน่หาขนาดนั้นหรือไม่ แต่เรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องของตน จึงไม่อยากก้าวล่วง” พร้อมยอมรับว่า โกรธในเรื่องที่เคยถูกกระทำ โดยที่ออกมาพูดในวันนี้นับว่าเป็นการร่วมจองกฐินทนายคนดังกล่าว เนื่องจากช่วงนี้ทนายคนนี้มีเรื่องเข้ามาเยอะ อาจจะเป็นโอกาสที่ทำให้มีคนฟังสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเองมากขึ้น
