‘พิชัย’ ถก นายกฯ ออสเตรเลีย ขยายโอกาสการค้า ส่งเสริมการลงทุน
‘พิชัย’ ถก นายกฯ ออสเตรเลีย ขยายโอกาสการค้า ส่งเสริมการลงทุนสินค้าเกษตร-อาหาร หนุนเศรษฐกิจดิจิทัล-สีเขียว
วันนี้ (11 ต.ค. 67) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตอบรับคำเชิญของ แอนโทนี อัลบาเนซี (The Honourable Anthony Albanese MP) นายกรัฐมนตรีเครือรัฐออสเตรเลีย ในการร่วมรับประทานอาหาร ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ซึ่งการพบนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียครั้งนี้ทำให้ทราบว่า ออสเตรเลียประกาศยุทธศาสตร์เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สู่ปี 2583 ซึ่งจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างออสเตรเลียกับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่งเสริมการลงทุนให้เติบโต กระตุ้นการลงทุนของนักธุรกิจชาวออสเตรเลียมาสู่ภูมิภาค รวมถึงไทยมากขึ้น
นายพิชัย กล่าวว่า ยุทธศาสตร์การลงทุนของออสเตรเลียสอดรับกับนโยบายการส่งเสริมการค้าการลงทุนของรัฐบาลไทยในหลายเรื่อง เช่น ในด้านเกษตรและอาหาร ความมั่นคงทางอาหาร การใช้ไทยเป็นที่ตั้งของ Data Center การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานสีเขียว รวมถึงยานยนต์ไฟฟ้าการผลิตแบตเตอรี่ และธุรกิจ BCG ไปจนถึงการศึกษา และการพัฒนาทักษะแรงงานต่าง ๆ เช่น สาขาการท่องเที่ยว บริการโรงแรม เทคโนโลยีสารสนเทศ การก่อสร้าง ผลิตอาหาร และเศรษฐกิจดิจิทัล รวมถึง Soft Power เศรษฐกิจสร้างสรรค์ เจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ในด้านภาพยนตร์ เกมส์ แอนิเมชัน แฟชั่น รองรับสังคมผู้สูงวัยมากขึ้น
ที่ผ่านมามีบริษัทเทคโนโลยีของออสเตรเลียในด้าน AI, เทคโนโลยีสุขภาพดิจิทัล, เทคโนโลยีทางกฎหมาย, เทคโนโลยีการเกษตร และเทคโนโลยีสำหรับนวัตกรรมธุรกิจ พบปะนักธุรกิจในไทยและแลกเปลี่ยนความเห็น แนวโน้มตลาด ระบบนิเวศทางเทคโนโลยี และเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย ภารกิจนี้ประกอบด้วยการจับคู่ธุรกิจเป้าหมายและการนำเสนอโครงการ การเยี่ยมชมสถานที่ และการเข้าร่วมในศาลาออสเตรเลียที่งาน Techsauce Global Summit
“ในการจัดทำยุทธศาสตร์ดังกล่าวของนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียมีความสำคัญกับประเทศภูมิภาครวมถึงไทยด้วย ซึ่งผมเล็งเห็นแล้วว่าเป็นโอกาสทางการค้าและการลงทุนของนักธุรกิจออสเตรเลีย ที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย รวมถึงการลงทุนร่วมกันในสาขาศักยภาพต่าง ๆ และออสเตรเลียเองก็มีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในไทย คาดว่าการค้าระหว่างไทย ออสเตรเลียจะมีความก้าวหน้าขึ้นอีกมาก“ นายพิชัย กล่าว
ปัจจุบันไทยกับออสเตรเลียมีการตกลงทางการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) โดยครอบคลุมการเปิดเสรีการค้าสินค้า การค้าบริการ การลงทุน และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลง TAFTA ไทยมีสัดส่วนการส่งออกไปออสเตรเลียโดยใช้สิทธิประโยชน์ต่อการส่งออกที่ได้รับสิทธิ ในปี 2566 ร้อยละ 60.80 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 3.97
สินค้าส่งออกของไทยที่ได้รับประโยชน์ เช่น รถยนต์และยานยนต์อื่น ๆ (เครื่องดีเซล หรือกึ่งดีเซล) รถยนต์ขนส่งบุคคลความจุกระบอกสูบเกิน 2,500 ลบ.ซม. ส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศ รถยนต์ขนส่งบุคคลความจุกระบอกสูบเกิน 1,000-1,500 ลบ.ซม. และปลาทูน่า ไทยมีสัดส่วนการนำเข้าจากออสเตรเลียที่ใช้สิทธิประโยชน์ต่อการนำเข้าที่ได้รับสิทธิ ในปี 2566 ร้อยละ 81.71 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ร้อยละ 27.42 โดยสินค้านำเข้าจากออสเตรเลียที่สำคัญ เช่น ถ่านหินบิทูมินัส ข้าวบาร์เลย์ อื่น ๆ ส้มแมนดาริน องุ่นสด ไวน์อื่น ๆ ที่ทำจากองุ่นสด และนมและครีม