รมว.กต. เล็งดึงสหรัฐฯ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ผ่านกลไก ‘แม่โขง’ หนุนแก้ปัญหาท่วม-น้ำแล้ง ซ้ำซาก
รมว.กต. เล็งดึงสหรัฐฯ-เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น ผ่านกลไก ‘แม่โขง’ สนับสนุนองค์ความรู้แก้ปัญหาท่วม-น้ำแล้งซ้ำซาก เผย ประเทศกลุ่ม ACMECS เห็นพ้องแผนระยะสั้น-ยาว แก้ปัญหาลุ่มน้ำโขง ครอบคลุมน้ำท่วม-น้ำแล้ง
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับเอกอัครราชทูตกลุ่มสมาชิกยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) ประจำประเทศไทย ประกอบด้วย กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม และไทย ที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อริ่เริ่มความร่วมมือแก้ปัญหาอุทกภัยลุ่มน้ำโขง โดยมีการพูดคุยถึงแผนระยะสั้น และระยะยาวในการแก้ปัญหาแม่น้ำโขง ทั้งจากภาวะน้ำท่วม และน้ำแล้งร่วมกัน
แผนระยะสั้น จะอยู่บนพื้นฐานการวางระบบเตือนภัย ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่สืบเนื่องจากอุทกภัยที่เกิดขึ้น และแม้แต่ละประเทศจะมีความแตกต่างทางสภาพแวดล้อม และการพัฒนา แต่แผนการเตือนภัยจะต้องสอดรับกับไทย เมียนมา และประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้กลไกลองค์กรระหว่างประเทศ ได้แก่ สถาบันแม่โขง (Mekong Institute) ร่วมกับองค์กร Mekong River Commission (MRC) ซึ่งมีประเทศที่พัฒนาแล้วหลายประเทศเข้าร่วมเป็นสมาชิก โดยไทยจะรวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับแม่น้ำโขงมาใช้ประโยชน์ร่วมกัน
สำหรับแผนระยะยาว กระทรวงการต่างประเทศจะรีบจัดการประชุมกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง โดยใช้กลไกที่ประเทศไทยมีอยู่แล้ว ได้แก่ ACMECS มาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเพิ่มบทบาท และความรับผิดชอบในการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งเอกอัครราชทูตประเทศสมาชิกในประเทศไทยทั้ง 4 ประเทศต่างเห็นพ้องด้วย ซึ่งนอกจากจะแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในระยะยาวแล้ว ยังต้องแก้ไขปัญหาน้ำแล้งด้วย
นอกจากนี้ ยังมีกลไกความร่วมมืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) ซึ่งมีประเทศจีนเป็นสมาชิกด้วย และยังมีกรอบความร่วมมือ แม่โขง- สหรัฐฯ, แม่โขง-ญี่ปุ่น และแม่โขง-เกาหลีใต้ มาใช้ เพื่อรับช่วงต่อในการนำเอาองค์ความรู้ของสถาบันแม่โขง และ MRC มาบูรณาการในการจัดการแม่น้ำโขงให้เกิดผลสัมฤทธิ์ ซึ่งสหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ พร้อมสนับสนุนองค์ความรู้ และให้ความช่วยเหลือกลุ่มประเทศแม่น้ำโขงในการวางโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อป้องกันอุทกภัยในอนาคตในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม หากยังต้องการองค์ความรู้อื่น ๆ เพิ่มเติมจากกลไกความร่วมมือเหล่านี้ ประเทศไทย ก็พร้อมประสานกับเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศที่มีความโดดเด่นในการป้องกันระบบน้ำท่วม มาสนับสนุนองค์ความรู้ในการบริหารจัดการครั้งนี้
นายมาริษ เปิดเผยอีกว่า ภายหลังการประชุมร่วมกับเอกอัครราชทูตกลุ่มประเทศ ACMECS ได้มีโอกาส โทรพูดคุยกับ สะเหลิมไซ กมมะสิด รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ สปป.ลาว พูดคุยถึงการแก้ไขปัญหาอุทกภัย และสถานการณ์แม่น้ำโขง โดยฝ่าย สปป.ลาว ตอบรับ และพร้อมส่งเสริมความร่วมมือให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นในระดับทวิภาคี เพื่อป้องกันผลกระทบจากภัยพิบัติ และการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน
ในระยะสั้น สปป.ลาวพร้อมขยายการติดตั้งโทรมาตรวัดน้ำไปยังลำน้ำสาขา และซ่อมแซมในส่วนที่เสียหายจากน้ำท่วม ส่วนระยะยาว ฝ่าย สปป.ลาว พร้อมประสานข้อมูลกับฝ่ายไทย เพื่อให้เกิดระบบการเตือนฉุกเฉินในภาพใหญ่ จึงมั่นใจว่าความร่วมมือในระดับทวิภาคีนี้ จะเป็นตัวเสริมให้ความร่วมมือในระดับอนุภูมิภาคให้แข็งแรงยิ่งขึ้น
นายมาริษ กล่าวว่า หลังจากนี้จะหารือกับผู้นำของเวียดนาม และกัมพูชา ต่อไป ซึ่งในการพูดคุยดังกล่าวที่เกิดขึ้น นอกเหนือจากการแก้ไขปัญหาแม่น้ำโขงแล้ว ยังได้นำเสนอเรื่องอื่น ๆ ในการแก้ไขปัญหาพรมแดนร่วมกัน ทั้งการแก้ไขปัญหายาเสพติด, การค้ามนุษย์, แก๊งส์คอลเซ็นเตอร์ และฝุ่น PM 2.5