‘พิธา’ กังวล สถานการณ์น้ำท่วม แนะรัฐบาลจัดทำแผนรับมือก่อนท่วม – ระหว่างท่วม – หลังท่วม
ชี้ ต้องมองภาพใหญ่แผนระยาว 5 ปี มอง ‘แพทองธาร’ ไม่กล้าลงพื้นที่ก่อนแถลงนโยบาย สะท้อนความกังวลโดนร้องมากกว่าความเดือดร้อนของประชาชน เผย ปชน. เตรียมรื้อปัญหาจริยธรรม เป็นเครื่องมือทำลายล้างทางการเมือง
วันนี้ (14 ก.ย. 67) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดเชียงราย ว่า หากยังจำได้ในวันที่มีการยุบพรรคก้าวไกล หน้าที่สุดท้ายของตนเองในช่วงเช้าในฐานะ สส. ได้อภิปรายว่า เป็นกังวลถึงสถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้ เพราะตัวเลข และประสบการณ์หน้างานนั้นฟ้องมาแต่ไกล โดยตั้งแต่ที่ตนเองเป็น สส. มาตลอด 6 ปี ไม่มีปีไหนที่ไม่ลงพื้นที่น้ำท่วม เห็นว่าก่อนท่วม ระหว่างท่วม และหลังท่วม ปัญหาอยู่ที่ไหน หากคนที่เป็นผู้นำสามารถเปิดวอร์รูม ที่มีการวางแผนการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ก่อนท่วม ระหว่างท่วม และหลังท่วม โดยเฉพาะแผนการเยียวยา หลังจากเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว
นายพิธา เล่าว่า เคยพบชาวอยุธยา นำเอกสารสำหรับการเยียวยามาให้ดู ในนั้นระบุว่า 60 วัน ได้เงินเยียวยา 27 บาท สะท้อนให้เห็นว่าการเยียวยาล่าช้า และการเยียวยาไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ขณะเดียวกันในภาพใหญ่ ต้องการแผนระดับชาติ ในการจัดการด้วยการมองไปข้างหน้าอย่างน้อย 5 ปี
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังไม่ลงพื้นที่น้ำท่วม ก่อนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายพิธา ระบุว่า เมื่อวานนี้นางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี ก็ลงพื้นที่แล้ว แต่ก็มองว่าการนำจริยธรรมมาลงโทษ ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ และเห็นได้ชัดว่า รัฐบาลนั้นกังวลเรื่องจริยธรรมล้นเกิน ทำให้เมื่อมาชั่งน้ำหนัก ระหว่างความเดือดร้อนของประชาชนหรือจะโดนร้อง กลับกังวลว่า จะโดนร้องนั้นสูงกว่า จึงเป็นเรื่องที่น่ากังวล เพราะจะทำให้ภาวะผู้นำเกิดวิกฤตทันที
ทั้งนี้ ฝ่ายกฎหมายของพรรคประชาชน เตรียมแก้ปัญหาเรื่องการใช้จริยธรรม เป็นเครื่องมือทำลายล้างทางการเมืองให้หายไปจากประเทศไทย เพื่อให้สามารถหาจุดสมดุล ระหว่างการทำงานกฎหมาย และจริยธรรมได้ ซึ่งตนเชื่อว่า ถ้าหากเป็นแบบนี้ก็น่าจะไปต่อได้