‘วิโรจน์’ ลั่น ขอตั้งหลัก หลังมี ”พรรคลุง“ ร่วมเป็นฝ่ายค้าน ชี้ ต้องปรับตัวทำงานร่วม ‘ประวิตร’
‘วิโรจน์’ ลั่น ”มันก็ดันเป็นจริงขึ้นมาเนอะ“ หลังโซเชียลขุดคลิป ’ชัยวุฒิ‘ แซว ’ก้าวไกล‘ อาจเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านกับ ‘พลังประชารัฐ’ ขอตั้งหลัก หลังมี ”พรรคลุง“ ร่วมเป็นฝ่ายค้าน ชี้ต้องปรับตัวทำงานร่วม ‘ประวิตร’
วันนี้ (30 ส.ค. 67) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึง การเลือกนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี (อบจ.) ว่า ถือเป็นโอกาสอันดีที่สุด ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ให้ชาวราชบุรีได้รับการพัฒนาอย่างดีที่สุด และรับงบประมาณเต็มเม็ดเต็มหน่วย ด้วยงบประมาณ 4 ปี จำนวน 3,000,000,000 บาท โดยย้ำว่า การบริหารงานจากนายก อบจ. จากพรรคประชาชน ที่มีความโปร่งใส ทำงานไม่รู้เหน็ดไม่รู้เหนื่อย
ส่วนกรณีที่นายวิโรจน์ เคยขึ้นเวทีดีเบตสมัยหาเสียงเลือกตั้งของพรรคก้าวไกล ที่บอกว่า “มีลุงไม่มีเรา” แต่ขณะนี้พรรคพลังประชารัฐ มาอยู่ร่วมฝ่ายค้านกับพรรคประชาชน ว่า ตนเองคิดว่า มีเราไม่มีลุงในตอนนั้นมันคือการร่วมรัฐบาล แต่ตอนนี้เมื่อเราเป็นฝ่ายค้านเราจึงต้องตั้งหลัก และทำงานให้ดีที่สุด ตอนนี้สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือการกำกับดูแลนโยบายที่ขับเคลื่อนด้วยรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่าสามารถทำงานร่วมกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้หรือไม่ นายวิโรจน์ ระบุว่า มันก็เป็นสิ่งที่เราต้องปรับตัวให้เข้ากับการทำงานร่วมกัน คงต้องนำผลประโยชน์ของประชาชน และหน้าที่ที่ได้รับในฐานะฝ่ายค้านเป็นหลักก่อน
ส่วนกรณีที่มีคลิปแชร์ในโซเชียล ที่ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เคยพูดติดตลกว่าทั้งสองพรรคอาจจะได้มาเป็นฝ่ายค้านร่วมกันก็ได้นั้น นายวิโรจน์ ระบุว่า “มันก็ดันเป็นจริงขึ้นมาเนอะ” นี่ก็เป็นการเมือง สุดท้ายก็ต้องมองว่าหน้าที่ของเราคืออะไร นั้นคือการตรวจสอบรัฐบาลได้ดีที่สุด
ส่วนจะมองว่าสมพรคปากหรือไม่นั้น นายวิโรจน์ บอกว่า “มันก็ไม่แน่นะการศึกยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร” ยังมีการเลือกตั้งใหญ่ในปี 70
ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ประกาศเป็นฝ่ายค้านอิสระ นายวิโรจน์ มองว่า เรื่องนี้ต้องมีการคุยกัน หากเรานำคำสัมภาษณ์ มาจำกัดไว้ เราก็จะทำงานร่วมกันไม่ได้ เพราะประชาชนเรามีวุฒิภาวะพอคงจะมีการพูดคุยร่วมกันว่าจะปรับอะไรบ้าง เพราะหากมีการตั้งแง่กัน นั่นก็ไม่ได้นี่ก็ไม่ได้ สุดท้ายใครกันที่จะเป็นคนที่เสียผลประโยชน์