ECONOMY

พาณิชย์ โชว์ผลงานดันราคาพุ่งจากปีก่อน 23%

พาณิชย์ โชว์ผลสำเร็จจับมือทุกภาคส่วน ดูแลพืชเกษตรหลัก-รอง ดันราคาพุ่งจากปีก่อน 23% สร้างรายได้เกษตรกรไทยเพิ่มเฉียด 2 แสนล้าน เร่งบุกตลาดต่างประเทศเพิ่ม

วันนี้ (9 ส.ค. 67) เวลา 10.00 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงความสำเร็จของการขับเคลื่อนมาตรการดูแลพืชรอง ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชนรายใหญ่กว่า 12 กลุ่มธุรกิจ 20 เครือ 27 หน่วยงาน โดยมี นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ นายวุฒิไกร ลีวีระพันธ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และบริษัทเอกชน เข้าร่วม ณ กระทรวงพาณิชย์

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม มีประชากรกว่า 27 ล้านคน หรือ 40% อยู่ในภาคการเกษตร มีปริมาณผลผลิตพืชเศรษฐกิจหลัก 87.7 ล้านตัน ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด ปาล์ม ยางพารา และพืชรอง 8.24 ล้านตัน ได้แก่ ผลไม้ พืช 3 หัว และผัก รวมปีละกว่า 96 ล้านตัน มูลค่ารวมกว่า 1.32 ล้านล้านบาท คิดเป็น 9% ของ GDP และไทยสามารถสร้างรายได้จากส่งออกสินค้าเกษตรและเกษตรอุตสาหกรรมในปี 2566 กว่า 1.69 ล้านล้านบาท

ในส่วนของพืชเศรษฐกิจหลักได้มีมาตรการบริหารจัดการ และดูแลอย่างใกล้ชิด ทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น โดยข้าวหอมมะลิราคาสูงสุดในรอบ 5 ปี ข้าวเจ้าราคาสูงสุดในรอบ 20 ปี ข้าวเหนียวราคาสูงสุดในรอบ 4 ปี ยางแผ่นดิบ น้ำยาง ราคาสูงสุดในรอบ 10 ปี ปาล์มน้ำมัน ราคาอยู่ในเกณฑ์สูงเฉลี่ย 6 บาท/กิโลกรัม (กก.) สูงสุด 6.40 บาท/กก. ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ราคาที่เกษตรกรขายได้อยู่ที่ 11.2 บาท/กก. มันสำปะหลัง ราคา 2.75-3.15 บาท/กก. และยังช่วยแก้ไขปัญหาโรคใบด่าง ด้วยการจัดหาท่อนพันธ์ทนทานและต้านทานโรค

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ดำเนินการเชิงรุก ดูแลความเป็นอยู่ของเกษตรกร พืชเกษตรเศรษฐกิจตัวรอง ควบคู่กับพืชหลัก ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ขับเคลื่อนมาตรการบริหารจัดการผลไม้ปี 2567 มีแผนดูแลพืชเศรษฐกิจตัวรอง ได้แก่ ผลไม้ พืช 3 หัว และผัก ในแผนงาน “คนตัวใหญ่ ช่วยคนตัวเล็ก” ร่วมมือบริหารจัดการพืชรอง ตั้งแต่ช่วงผลผลิตออกจนผลผลิตสู่ตลาด โดยภาครัฐและเอกชนช่วยรับซื้อพืชรองไปจำหน่าย แปรรูป หรือเป็นกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) จะเป็นกลไกใหม่ในการช่วยดูดซับผลผลิตและเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรไปในคราวเดียวกัน

ปัจจุบันเครือข่ายพันธมิตร “คนตัวใหญ่ ช่วยคนตัวเล็ก” มี 12 กลุ่มธุรกิจ 20 เครือ 27 หน่วยงาน มีเป้าหมายช่วยดูดซับเชื่อมโยงผลไม้ พืช 3 หัว ผัก เป้าหมาย 321,579 ตัน แยกเป็นผลไม้กว่า 2 แสนตัน พืช 3 หัว 2 หมื่นตัน ผัก 3 หมื่นตัน มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท ปัจจุบันดำเนินการไปแล้วในส่วนของทุเรียน และจะทยอยส่งมอบมังคุด ลำไย ไปจนถึงสิ้น ก.ย.นี้ รวม 33,500 ตัน และมีแผนส่งมอบไปถึงต้นปีหน้า ทั้งผลไม้ ส้ม ลองกอง พืชผัก พืช 3 หัว หอมแดง กระเทียม หอมใหญ่ ที่จะเริ่มออกมากในช่วงสิ้นปีจนถึงต้นปีหน้า

ผลการดำเนินมาตรการดูแลสินค้าเกษตร ทั้งพืชหลัก พืชรอง สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของ ข้าวเปลือก ยางพารา ผลไม้ พืช 3 หัว เฉลี่ยสูงขึ้นจากปีก่อน 23% ทำให้เกษตรกรกว่า 7.4 ล้านครัวเรือน มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 196,536 ล้านบาท จากราคาที่ปรับสูงขึ้นกว่าปีก่อน

“จากนี้กระทรวงพาณิชย์จะเร่งบุกตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น มีเป้าหมายที่ประเทศอินเดียที่มีประชากรถึง 1,400 ล้านคน นอกจากที่เราเร่งบุกตลาดจีนที่มีประชากร 1,200 ล้านคนแล้ว“ นายภูมิธรรม กล่าว

นายนภินทร กล่าวว่า เกือบหนึ่งปีของรัฐบาลชุดนี้ที่ได้เข้ามาบริหาร สามารถดึงราคาสินค้าเกษตรขึ้นโดยไม่ต้องจำนำสินค้าเกษตร ไม่ต้องประกันราคาสินค้าเกษตร ทำให้พืชหลักและพืชรองราคาสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ สิ่งสำคัญคือความร่วมมือของภาคเอกชนทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้น เราจะร่วมมือกันเพื่อให้สินค้าเกษตรมีราคาสูงขึ้น ทำให้เศรษฐกิจรากฐานของประเทศไทยดีขึ้น

นายสุชาติ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ เราไม่สามารถทำได้ด้วยตัวของเราเอง ต้องอาศัยภาคเอกชนและหน่วยงานที่มีส่วนร่วม ทำให้คนตัวใหญ่ช่วยคนตัวเล็กเกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรม

สำหรับพืชเกษตรเศรษฐกิจตัวรองที่กระทรวงพาณิชย์เข้าไปดูแล มีจำนวน 18 ชนิด แยกเป็นผลไม้ 11 ชนิด ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง ลำไย สับปะรด ลิ้นจี่ ส้มโอ ส้มเขียวหวาน มะยงชิด และมะม่วง ผัก 4 ชนิด ได้แก่ มะนาว มะเขือเทศ ฟักทอง และพริกขี้หนูจินดา พืชสามหัว 3 ชนิด ได้แก่ หอมแดง หอมหัวใหญ่ และกระเทียม

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat