‘ศรีสุวรรณ’ ฟ้องเอาผิด ‘อธิบดีกรมประมง-รมว.เกษตรฯ’ ละเลยปล่อยนายทุนใหญ่ทำปลาหมอคางดำระบาด
‘ศรีสุวรรณ’ ฟ้องเอาผิด ‘อธิบดีกรมประมง-รมว.เกษตรฯ’ ละเลยหน้าที่ ปล่อยนายทุนใหญ่ทำปลาหมอคางดำระบาด-ไม่ยอมเอาผิดผู้นำเข้าให้เป็นผู้รับผิดชอบ
วันนี้ (30 ก.ค. 67) ที่ศาลปกครอง นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นฟ้องอธิบดีกรมประมง คณะกรรมการด้านความหลากหลายและความปลอดภัยทางชีวภาพของกรมประมง (IBC) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในข้อหาใช้ดุลยพินิจโดยมิชอบและละเลยต่อหน้าที่ ปล่อยนายทุนใหญ่นำปลาหมอคางดำ ซึ่งเป็นเอเลี่ยนสปีชีส์เข้าประเทศจนแพร่ระบาด สร้างความเสียหายกับชาวประมงนับหมื่นล้าน ถือเป็นอาชญากรรมด้านสิ่งแวดล้อมร้ายแรง ซึ่งกรมประมง IBC และ รมว.เกษตรฯ ไม่ยอมเอาผิดผู้นำเข้าให้เป็นผู้รับผิดชอบ แต่กลับนำเงินภาษีของประชาชนไปใช้แก้ปัญหา
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ชาวประมงเดือดร้อนและเสียหาย จึงมาร้องขอให้องค์การรักชาติ รักแผ่นดิน ช่วยเป็นธุระอย่าปล่อยให้กรมประมงและนายทุนใหญ่ลอยนวล องค์กรฯ จึงยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อให้ศาลออกคำบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดให้เอาผิดเอกชนรายใหญ่ต้นเหตุของปัญหาและให้รับผิดชอบต่อความเสียหายของชาวประมงทั้งหมด และสั่งให้นายทุนใหญ่ฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำที่สูญหายไปให้กลับมาดังเดิมต่อไป
นายศรีสุวรรณ กล่าวย้ำว่า กรมประมงรู้ปัญหาที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ต้น แต่กลับเพิกเฉยในการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและรวดเร็ว ไม่รีบดำเนินการเอาผิดนายทุนใหญ่ที่นำเข้าปลาดังกล่าว แต่กลับนำเงินภาษีของประชาชนทั้งประเทศมาแก้ไขปัญหา หลายพัน หลายหมื่นล้านบาท ทั้งที่โดยหลักกฎหมายสิ่งแวดล้อม ม.97 กรมประมงสามารถฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เสียหายได้ รวมทั้งใช้ ป.อาญา ม.360 ประกอบ ม.56 ในการฟ้องศาลอาญาเอาผิดนายทุนใหญ่ดังกล่าว
ทั้งนี้ กฎหมายเขียนไว้ชัดว่าผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ตลอดระยะเวลาที่เริ่มปรากฏการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำตั้งแต่ปี 2555 จนมีชาวประมงไปร้องคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) เมื่อปี 2560 กรมประมง และพวก ก็ไม่ได้ป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจังและรวดเร็ว จนปลาดังกล่าวแพร่ระบาดไปจนสุดจะควบคุมได้ การแก้ไขปัญหาทุกวันนี้เป็นเพียงปลายเหตุเท่านั้น