‘ภัทรพงษ์’ ผิดหวังผลงานรัฐบาลแก้ฝุ่น ถามคิดอะไรอยู่ปั่นจักรยานโชว์ในฤดูฝุ่น
‘ภัทรพงษ์’ ผิดหวังผลงานรัฐบาลแก้ฝุ่น เหน็บ ‘เศรษฐา’ มีอำนาจแต่โยนให้คนไม่มีความพร้อมอย่าง ‘พล.ต.อ.พัชรวาท’ จัดการ ถามคิดอะไรอยู่ปั่นจักรยานโชว์ในฤดูฝุ่น
วันนี้ (4 เม.ย. 67) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 32 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2) ในญัตติการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ พรรคก้าวไกล อภิปรายปัญหาฝุ่น PM 2.5 โดยตั้งคำถามว่าเหตุใดไทยถึงไม่เคยประกาศเขตพื้นที่ภัยพิบัติ นายกรัฐมนตรีบอกว่า ประกาศไม่ได้เพราะจะกระทบการท่องเที่ยว สูญเสียเม็ดเงินทางเศรษฐกิจมหาศาล และผู้ว่าราชการจังหวัดหนึ่งบอกว่า ประกาศทำไม เงื่อนไขเยอะใช้เงินไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ขอแบ่งการอภิปรายเป็น 3 ส่วน
1.ก่อนเกิดภัยพิบัติ ทุกท่านอาจจะลืมหรือไม่ เรามีงบทดลองราชการ ในส่วนของการป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติจังหวัดละ 10 ล้านบาท ไม่ต้องประกาศพื้นที่ภัยพิบัติแถมเงื่อนไขการใช้เงินง่ายมาก จัดหาอาสาสมัคร จัดจ้างได้หมด ซื้อซ่อมแซมอุปกรณ์ จัดซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงได้หมด ยิ่งนายกฯได้บอกว่าเราประกาศไม่ได้ กลัวจะกระทบการท่องเที่ยว ส่วนนี้ยิ่งต้องรีบใช้ ทำไมจึงไม่ใช้มันเกิดอะไรขึ้น
2.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุชัดเจนว่าหากมีค่า PM 2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมงมากกว่า 150 ไมโครกรัมติดต่อกัน 5 วัน ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ประกาศเขตประสบภัยพิบัติ นายกฯ อาจจะไม่ทราบภาคเหนือไม่ได้มีแค่เชียงใหม่ และที่เชียงใหม่ติดอันดับ 1 ของโลกทุกปีเพราะเว็บไซต์เหล่านั้นไม่มีเครื่องวัด อยู่ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน และอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย น่าเสียดายอยากให้ต่างประเทศได้รู้เชียงราย โดยเฉพาะอำเภอแม่สายที่มีค่า PM 2.5 สูงที่สุดของปี เกิดขึ้นจากอะไรกันแน่ และค่า PM 2.5 ของ 2 จังหวัดนี้เกินมาตรฐานที่จะต้องประกาศพื้นที่ภัยพิบัติไปนานแล้ว โดยเฉพาะแม่ฮ่องสอนถ้ารอบแรกไม่ประกาศเข้ารอบที่ 2 แล้วทำไมเราไม่ทำอะไรเลย เราจะอยู่แบบนี้กันจริงหรือ ส่วนจังหวัดลำปาง เป็นจังหวัดที่มีอัตราผู้ป่วยมะเร็งปอดสูงสุด หากดูค่า PM 2.5 รายวัน ไม่ได้สูงมาก แต่หากเราดูตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์จนถึงปัจจุบัน จะเห็นว่าชาวลำปางมีสิทธิที่จะหายใจในอากาศสะอาดเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น น้อยที่สุดในประเทศ ไม่แน่ใจว่านายกฯ มีข้อมูลหรือไม่ หรือใส่ใจปัญหาจริงหรือไม่ หรือสนใจแค่จังหวัดเชียงใหม่
3.ส่วนที่ผู้ว่าราชการจังหวัดบอกว่าเงื่อนไขเยอะใช้เงินไม่ได้ง่าย จะประกาศไปทำไม ตนเองคิดว่าผู้นำที่ดีควรเห็นปัญหาและหาทางแก้ และนายกฯ ก็เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอยู่แล้ว แก้ระเบียบไม่ยาก
“น่ากังวลมาก คืนนั้นนายกฯ เศรษฐา ทวีตว่าอากาศเชียงใหม่คืนนี้ดีกว่าที่คิด PM 2.5 ค่าฝุ่น 193 มันดียังไง แค่นั้นว่าหนักแล้วยังไม่พอวันรุ่งขึ้น นายกฯ อยากปั่นจักรยานโชว์ การปั่นจักรยานมันเป็นสิทธิของท่าน ปอดของท่าน ผมไม่ก้าวล่วง แต่การที่ท่านมาประชาสัมพันธ์ในฤดูฝุ่น ท่านคิดอะไรอยู่ เราต้องสร้างความตระหนักให้กับประชาชน เพราะปัญหาที่เราเจอทุกวันนี้คืออะไร คือประชาชนเริ่มอยู่ในสภาวะที่จำยอมกับปัญหา ยอมรับว่า New Normal ที่พวกเขาต้องเจอไปตลอดชีวิต ทั้งที่ไม่ควรเป็นแบบนั้น เพราะฝุ่นพิษ กำลังทำลายชีวิตของพวกเขาไปอย่างช้า ๆ “
นายภัทรพงษ์ ยังกล่าวถึงการแจ้งเตือน SMS Alert ปัจจุบันไม่มีความคืบหน้า สอบถามไปยัง ผอ.กองสิ่งแวดล้อมของ กทม.เมื่อสัปดาห์ก่อน ผอ.ได้แจ้งว่าไม่มีมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ รัฐบาลของพวกเรา กำลังทำงานแพ้แก๊งต้มตุ๋นที่ส่ง SMS หลอกลวงพวกเราทุกวัน อยากให้นายกฯ ถอยมาก้าวหนึ่ง และมองปัญหากลับเข้าไปใหม่ มองในฐานะ CEO ผู้บริหารบริษัทเอกชน แล้วมองโครงสร้างการบริหาร อำนาจรัฐบาลชุดนี้ งบกลางสามารถใช้ได้ในกรณีเร่งด่วน แต่กลับใช้ไปแค่ 300 ล้าน
“ท่านจัดการได้ในตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารจัดการมลพิษทางอากาศ PM 2.5 อย่างยั่งยืน แต่ท่านเลือกที่จะหลบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปนั่งหัวโต๊ะ ผมไม่โทษรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพย์ฯ ที่ไม่มีความสามารถ แต่โทษท่านนายกฯ ที่มอบตำแหน่งสำคัญขนาดนี้ให้กับคนที่ไม่มีความพร้อม”