คปท. – กองทัพธรรม – ศปปส. ยื่นหนังสือคัดค้านการพักโทษ ‘ทักษิณ’
ด้านที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม ปัดตอบได้พักโทษหรือไม่ ชี้อยู่ระหว่างคณะอนุกรรมการฯ พิจารณา
วันนี้ (12 ก.พ. 67) กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ร่วมกับกองทัพธรรม และกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) เคลื่อนขบวนออกจากที่ชุมนุมสะพานชมัยมรุเชฐ เดินทางไปยื่นหนังสือคัดค้านการพักโทษ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่กระทรวงยุติธรรมเมื่อเวลา 10.30 น. โดยมีนายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้รับหนังสือ
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. กล่าวว่า กรณีนายทักษิณไม่ได้รับการลงโทษคุมขังในเรือนจำ นำไปสู่การตั้งคำถามกับกระบวนการในการรับโทษอยู่ขณะนี้ แต่รัฐบาลไทยและกระทรวงยุติธรรมกลับตอกย้ำความสงสัย โดยให้นายทักษิณได้รับการพักโทษ ซึ่งเรายืนยันจะคัดค้านอย่างเต็มที่ เพราะนายทักษิณเป็นนักโทษเด็ดขาดที่ต้องได้รับการคุมขังในเรือนจำไม่ใช่โรงพยาบาล วันนี้จึงมาสื่อสารเพื่อคัดค้านการพักโทษนายทักษิณ
นายสมบูรณ์ กล่าวว่า กรณีการพักโทษเป็นภารกิจปกติของกรมราชทัณฑ์อยู่แล้ว โดยจะประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษ จะมีการเสนอชื่อมาให้รัฐมนตรีเพื่ออนุมัติ ซึ่งการพักโทษมี 2 กรณี คือ
1.การพักโทษกรณีปกติ เป็นการพักโทษแก่นักโทษเด็ดขาดตั้งแต่ชั้นกลางขึ้นไปที่ได้รับโทษจำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือนหรือ 1 ใน 3 ของกำหนดโทษที่ระบุไว้ในหมายแจ้งโทษเด็ดขาด
2.การพักการลงโทษกรณีพิเศษ เป็นกรณีที่อธิบดีกรมราชทัณฑ์พิจารณาแล้วเห็นว่า มีเหตุพิเศษที่จะพักการลงโทษให้แก่นักโทษเด็ดขาดมากกว่ากรณีปกติ เช่น เป็นผู้สูงอายุ เจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการ
ทั้งนี้ ผู้ได้รับการพักโทษต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของกรมราชทัณฑ์ที่กำหนดไว้ หากไม่ปฏิบัติตามจะถูกถอนการพักโทษ และให้กลับมาอยู่ในเรือนจำ ส่วนจะมีรายชื่อของนายทักษิณหรือไม่ ตามแนวปฏิบัติของกรมราชทัณฑ์จะไม่มีการแถลงรายชื่อก่อนที่จะได้รับการพักโทษ เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิ์ จึงไม่สามารถพูดได้ว่ามีรายชื่ออยู่หรือไม่ เพราะยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา
สำหรับกรณีที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ว่าโดยคาดว่าในวันที่ 12 ก.พ. อธิบดีกรมราชทัณฑ์ อาจเสนอรายชื่อผู้ต้องขังที่ได้รับสิทธิ์การพักโทษมาให้พิจารณา นายสมบูรณ์ ชี้แจงว่า เป็นการคาดการณ์ของ รมว.ยุติธรรม เพราะจริง ๆ แล้วช่วงเวลาการประชุมในแต่ละเดือนจะรายงานในเดือนถัดไป แต่พรุ่งนี้ พ.ต.อ.ทวี จะมีการประชุม ครม. คงต้องให้สื่อมวลชนสอบถามในวันพรุ่งนี้แทน และวันนี้ พ.ต.อ.ทวี ปฏิบัติราชการอยู่ที่ จ.ยะลา แต่ถ้าได้รับรายชื่อจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์แล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องสั่งการในนาทีนั้น เพราะต้องผ่านขั้นตอนของรองปลัดกระทรวงยุติธรรม และปลัดกระทรวงยุติธรรมด้วย
เมื่อถามว่าหากนายทักษิณได้รับการพักโทษจะต้องแจ้งใช่หรือไม่ และเมื่อพักโทษจะไปอยู่ที่ใด ใครเป็นผู้อุปการะ นายสมบูรณ์ กล่าวว่า จะมีเงื่อนไขระบุว่า ถ้ากรณีมีอายุ 70 ปีขึ้นไป มีคนอุปการะ หรือให้ความช่วยเหลือตัวเองได้หรือไม่ อย่างไร ดังนั้น คนที่ได้รับการพักโทษจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข ซึ่งการพักโทษไม่ได้หมายความว่าพ้นโทษ หรือพ้นจากการควบคุมของกระทรวงยุติธรรม แต่ยังอยู่ในการกำกับดูแลของกระทรวงยุติธรรม แค่เปลี่ยนจากการรับผิดชอบของกรมราชทัณฑ์ไปเป็นกรมคุมประพฤติ และไม่ต้องมีหมายปล่อยของศาล
นายสมบูรณ์ กล่าวถึงประเด็นการอายัดตัวนายทักษิณจากคดีมาตรา 112 ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) และอัยการสูงสุดว่า ขณะนี้อยู่ในอำนาจของพนักงานอัยการที่จะต้องพิจารณาร่วมกับกรมราชทัณฑ์ ส่วนจะอายัดตัวได้หรือไม่ อยู่ที่พนักงานอัยการ ส่วนขั้นตอนในปัจจุบัน ยังอยู่ในกระบวนการที่กรมราชทัณฑ์จะต้องหารือกับอัยการว่าถ้ามีชื่อนายทักษิณได้รับการพักโทษจริง ๆ ขั้นตอนจะเป็นอย่างไร แต่ความเห็นหลักและการตัดสินใจจะเป็นของอัยการ โดยที่กรมราชทัณฑ์จะต้องพิจารณาร่วมด้วย
นายสมบูรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การติดหรือไม่ติดกำไล EM ของนายทักษิณ หากได้รับการพักโทษ ตนขอชี้แจงถึงมติของคณะอนุกรรมการฯ เมื่อปี พ.ศ.2563 คนเจ็บป่วยหรืออายุ 70 ปีขึ้นไป ไม่ต้องสวมหรือติดกำไล EM อีกทั้งในกระบวนการของการพักโทษ คณะอนุกรรมการฯ จะไม่ได้มีระบุว่าต้องทำอะไร เพราะกรมราชทัณฑ์มีระเบียบที่กำหนดไว้ชัดเจน และกรมคุมประพฤติก็ต้องปฏิบัติตามระเบียบ ยืนยันว่าถ้าผู้ต้องขังรายใดที่อายุมากกว่า 70 ปี และเจ็บป่วย มีเหตุร้ายแรงจะไม่มีรายใดที่ได้ติดกำไล EM เพราะถ้าต้องติดกำไล เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ก็ต้องติดคุก เพราะทำผิดระเบียบกรมราชทัณฑ์
นายสมบูรณ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า กระทรวงยุติธรรมไม่สามารถปฏิบัตินอกเหนือจากแนวคนอื่นได้ เช่น ให้สัมภาษณ์ว่านายทักษิณจะได้รับการพักโทษหรือไม่ อย่างไร เพราะต้องรักษาสิทธิ์ของแต่ละคน เนื่องจากไม่ได้มีเพียงคนเดียวที่ถูกเสนอชื่อให้คณะอนุกรรมการฯ พักการลงโทษ แต่มีคนที่อาจไม่ได้รับการพักโทษ จึงต้องสงวนสิทธิ์ที่จะไม่เอ่ยรายชื่อบุคคลใด