กทม. บริการ Taxi ให้ผู้พิการ-ผู้สูงอายุ เดินทางจากบ้านไปโรงพยาบาล กทม.
กทม. บริการ ‘Taxi คนพิการระบบใหม่’ ให้ผู้พิการ-ผู้สูงอายุ เดินทางจากบ้านไปโรงพยาบาล กทม.ฟรี เริ่ม 14 ก.พ.นี้
นายภาณุมาศ สุขอัมพร ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่าโครงการจัดบริการรถสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็น หรือ ‘Taxi คนพิการ’ ดำเนินการมาหลายปีแล้ว เดิมมีจำนวนรถทั้งหมด 30 คัน ซึ่งกรุงเทพมหานครมอบหมายให้บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) เป็นผู้ดำเนินการโครงการดังกล่าว เป็นระยะเวลา 4 ปี (1 ต.ค. 59 – 30 ก.ย. 63) โดยกรุงเทพมหานครสนับสนุนงบประมาณบางส่วน และเคทีจัดหาผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายอีกบางส่วน
หลังสิ้นสุดบันทึกมอบหมาย (30 ก.ย. 63 – 2 ต.ค. 65) เคทียังคงให้การสนับสนุนและให้บริการเดินรถอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ ในปีงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 กรุงเทพมหานครโดยสำนักการจราจรและขนส่ง ได้ให้เงินอุดหนุนแก่เคทีเพื่อสนับสนุนโครงการ เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค. 65 – 26 ก.ย. 66 รวมระยะเวลา 360 วัน ให้บริการด้วยรถจำนวน 10 คัน
ภายหลังสิ้นสุดบันทึกข้อตกลงการรับเงินอุดหนุน เคทียังคงให้การสนับสนุนและให้บริการเดินรถอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งช่วงวันที่ 27 ก.ย. – 30 พ.ย. 66 ให้บริการเดินรถจำนวน 10 คัน และตั้งแต่ช่วงวันที่ 1 ธ.ค. 66 – 31 ม.ค. 67 ให้บริการเดินรถ จำนวน 5 คัน จึงจะยุติการให้บริการเดินรถ
“สำหรับปัญหาการให้บริการที่เกิดขึ้น คือ ผู้พิการและผู้สูงอายุเข้าถึงบริการได้ยาก การให้บริการไม่คลอบคลุม (มีการใช้งานเพียงบางกลุ่ม) การให้บริการยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ใช้งบประมาณในการดำเนินการสูง ไม่คุ้มค่ากับเที่ยวรถ กรุงเทพมหานครจึงต้องหาแนวทางเพื่อทำให้การบริการนี้มีความยั่งยืนและมีการบริการที่ดีขึ้น เนื่องจากผู้พิการหรือผู้สูงอายุนั่งรถเข็นมีความจำเป็นต้องเดินทางไปโรงพยาบาล ซึ่งขนส่งมวลชนทั่วไปยังไม่ครอบคลุม” นายภาณุมาศ กล่าว
รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า รถบางส่วนเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน คงเหลือรถที่นำมาใช้งานได้ 20 คัน โดยจำนวนนี้อยู่ในกระบวนการรับโอนมาที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งสำนักการแพทย์จะรับ 18 คัน สำนักพัฒนาสังคมรับ 2 คัน รถที่สำนักการแพทย์รับโอนมาจะกระจายอยู่ในโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานครทั้ง 11 แห่ง และอีก 2 คัน ที่สำนักพัฒนาสังคมรับโอนจะใช้ดูแลผู้สูงอายุ
จากตัวเลขผู้ใช้บริการในโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานครเป็นประจำ พบว่ามีผู้พิการ 5,000 คน มีผู้สูงอายุที่เคลื่อนไหวลำบากประมาณ 100,000 คน เป็นตัวเลขค่อนข้างสูง จึงต้องจัดระบบรถบริการทั้ง 20 คัน อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะเปิดให้ผู้พิการและผู้สูงอายุจองผ่านระบบในหลายช่องทาง เช่น ไลน์แอดโรงพยาบาล โทรศัพท์มายังศูนย์ข้อมูลของสำนักการแพทย์ หรือระบบ Easy Chat ทางแอปพลิเคชัน หมอ กทม. ซึ่งจะมีสำนักการแพทย์เป็นผู้ดูแลคิว
ส่วนเงื่อนไขการให้บริการ จะพิจารณาตามข้อบ่งชี้ทั้งด้านร่างกาย (เช่น ผู้ป่วยที่ระดับ ADL 5-12 ผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว ผู้ป่วยต้องมีสัญญาณชีพคงที่ไม่อยู่ในภาวะวิกฤต ผู้ป่วยที่มีนัดรักษาต่อเนื่องกับโรงพยาบาลในสังกัดสำนักการแพทย์ ส่วนในกรณีผู้ที่ไม่จำเป็นต้องมาโรงพยาบาล จะพิจารณาการให้บริการโดยใช้ Telemedicine ติดตามการรักษาพยาบาล และเยี่ยมบ้าน) และด้านสังคม (เยี่ยมบ้านแล้วพบปัญหาเศรษฐฐานะ)
ลักษณะการให้บริการ จะไม่เกินคันละ 4 เที่ยวต่อวัน โดยพิจารณาความจำเป็นจากดุลยพินิจของบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงต้องนัดหมายล่วงหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ซึ่งจะให้บริการตามพื้นที่ Health Zone โดยต้นทางและปลายทางเป็นที่อยู่อาศัยของผู้รับบริการหรือโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครจะเปิดรับจองการใช้บริการในวันที่ 7 ก.พ. 67 และจะเริ่มให้บริการในวันที่ 14 ก.พ. 67 โดยให้บริการฟรี
ในอนาคตกรุงเทพมหานครอาจขยายไปยังกลุ่มเป้าหมายรอง เช่น ผู้พิการที่ต้องเดินทางไปสถาบันสิรินธร (กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี) แต่ในระยะแรกจะให้บริการแก่กลุ่มเป้าหมายหลักที่มีความจำเป็นต้องเดินทางไปโรงพยาบาลในสังกัด กทม. ก่อน และจะรวบรวมข้อมูลประมาณ 3 เดือน เพื่อนำมาปรับปรุงการให้บริการหรือพิจารณาขยายการบริการไปยังกลุ่มเป้าหมายรองต่อไป
สำหรับมาตรการระยะยาว จะดูข้อบัญญัติต่าง ๆ รวมทั้งทำความร่วมมือกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ หาแนวทางจัดให้มีสวัสดิการเกี่ยวกับการเดินทางของผู้พิการและผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็น แก้ไขระเบียบกรุงเทพมหานครว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการจัดสวัสดิการและการสงเคราะห์ ตลอดจนร่วมมือกับเอกชนเข้ามาร่วมให้บริการ เป็นต้น ซึ่งภายในปีนี้จะออกวิธีการที่จะทำให้การบริการยั่งยืนและครอบคลุมมากขึ้น